ห้องเม่าปีกเหล็ก

ศัตรูสำคัญของพอร์ตความมั่งคั่ง

โดย Edrink
เผยแพร่ :
59 views

ความเสี่ยงศัตรูสำคัญของพอร์ตความมั่งคั่ง

สวัสดีครับนักลงทุนทุกๆท่าน เปิดปีเสือมาพร้อมกับ“ความโกลาหลของตลาดทุน”ที่ต้องบอกว่ามาจากหลายปัจจัยด้วยกันทั้งความกังวลต่อเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อมาตรการของธนาคารกลาง

รวมถึงความตรึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนซึ่งส่งผลลบต่อตลาดหุ้น ตลาดคริปโทหรือตลาดตราสารหนี้ ทำให้พอร์ตความมั่งคั่งของเราได้รับผลกระทบไปด้วย แม้จะไม่รุนแรงเหมือนโควิด แต่ความกังวลนี้อาจจะส่งผลต่อผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนของเราได้

วันนี้ผมเลยอยากพูดเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเก่าที่เราทุกคนที่อยู่ในโลกของการลงทุนทราบกันอยู่แล้ว แต่ลองมามองในมุมมองอื่นดูกันบ้างเผื่อจะเป็นไอเดียใน“การบริหารจัดการพอร์ตความมั่งคั่ง”ของเราได้มีประสิทธิภาพขึ้น

เริ่มจากนิยามความเสี่ยงที่เราจะพูดกันในวันนี้คงเน้นที่เรื่องของความเสี่ยงอันเกิดจากการที่ราคาสินทรัพย์ที่เราลงทุนมีการปรับตัวในทิศทางที่ไม่ได้เป็นไปในสิ่งที่เราต้องการ เช่นราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง หรือ ราคาหุ้นเคลื่อนไหวขึ้นลงสลับกันไป หรือราคามีการปรับตัวขึ้นก็จริงแต่อาจจะน้อยกว่าที่เราคาดหวังหรือวางแผนเอาไว้ ก็ได้ ซึ่งแต่ละสิ่งล้วนส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่เราได้วางเอาไว้ในการบริหารความมั่งคั่ง

การที่ราคาสินทรัพย์ที่เราลงทุนปรับตัวลงจะส่งผลกระทบทันทีต่อมูลค่าพอร์ตของเรากรณีที่เราปรับมูลค่าพอร์ตตามราคาตลาด และผลกระทบนี้จะมากขึ้น

สำหรับพอร์ตเกษียณที่ต้องมีการขายสินทรัพย์ออกมาเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย (จะตรงข้ามกับกรณีของการลงทุนแบบเฉลี่ยทุกเดือนที่มีการนำเงินใหม่เข้ามาลงทุน แต่พอร์ตเกษียณต้องมีการนำเงินออกเป็นรายเดือนหรือไตรมาส) ทำให้เราขายสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำ ซึ่งความเสี่ยงนี้อาจน้อยลงสำหรับพอร์ตแบบเตรียมเงินสำหรับการเกษียณ และยังมีช่วงเวลาเหลืออีกมากกว่าจะถึงวันสิ้นสุด

ในกรณีนี้ทำให้การดูตัววัดความเสี่ยงแค่ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ควรพิจารณาถึงตัววัดความเสี่ยงอื่นๆเช่น ความเสี่ยงที่วัดจากมูลค่าความเสี่ยงหรือ Value at Risk ที่วัดความเสี่ยงจากการที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวแบบสุดขีดเช่น วัดความเสียหายในช่วงหุ้นตกแรงๆ เป็นต้น หรือดูค่าความเสี่ยงจากการที่สินทรัพย์มีการปรับตัวลดลงอย่างมากจากที่พอร์ตเดิม (Maximum Drawdown) ก็จะช่วยทำให้เรามองเห็นความเสี่ยงและนำมาใช้ประกอบการวางแผนบริหารพอร์ตของเราตั้งแต่แรกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คราวนี้เราลองมาดูว่าเราจะมีวิธีการอย่างไรในการบริหารจัดการความเสี่ยงนี้ซึ่งผมสรุปมาไว้5 วิธีด้วยกันเริ่มจากวิธีที่ 1 หลีกเลี่ยงหมายถึงเมื่อเรารู้ว่าสินทรัพย์ใดที่มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงนี้อย่างรุนแรง เราก็หลีกเลี่ยงโดยการเลือกที่จะไม่ลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราเลือกวิธีหลีกเลี่ยงนี้ผลตอบแทนจากพอร์ตของเราก็จะลดลงไปด้วย เพราะโดยปกติสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมักจะให้ผลตอบแทนที่สูง

วิธีที่ 2 คือจำกัดแม้ว่าความเสี่ยงนี้เราไม่สามารถที่ “กำจัด” มันได้ แต่เราสามารถ “จำกัด” โดยเรายังลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงนี้อยู่ แต่จำกัดสัดส่วนการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เรายังสามารถที่จะเผชิญกับความเสี่ยงนี้ในบางช่วงเวลาได้ เช่น ลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 20 ลงทุนในคริปโตไม่เกินร้อยละ 5 เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้จะยังทำให้เราได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์เหล่านี้อยู่แต่จะอยู่ในระดับที่น้อยลง

วิธีที่ 3 คือการกระจายความเสี่ยงซึ่งตั้งอยู่ในหลักการที่ว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันร้อยเปอร์เซนต์ เช่น กรณีเกิดสงครามถ้าหุ้นตก พันธบัตรรัฐบาลหรือทองคำไม่ได้ตกไปด้วย หรือถ้าธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย หุ้นประเภทเติบโตสูง จะได้รับผลกระทบเชิงลบมากกว่าหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นต้น หรืออาจมีหุ้นบางประเทศที่ได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าเป็นต้น ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุนไปยังหลายกลุ่มสินทรัพย์ และในแต่ละกลุ่มสินทรัพย์ก็ยังกระจายไปยังหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ก็จะช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงนี้ออกไปได้

วิธีที่ 4 คือการซื้อประกันเช่นการซื้อสิทธิในการขาย (Put Option) หรือทำการช็อตสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Futures) แต่สิทธิขายนี้อาจไม่ได้มีในทุกๆประเภทสินทรัพย์ แต่อย่างน้อยก็มีในกรณีของหุ้นไทย หรือหุ้นต่างประเทศ เป็นต้น ในกรณีที่สินทรัพย์ที่เราลงทุนอยู่มีราคาที่ตกลง แต่มูลค่าของสิทธิขายของเราหรือฟิวเจอร์ที่เราช็อทเอาไว้ก็จะมีมูลค่าที่สูงขึ้นชดเชยกับส่วนที่ลดลงได้ตามสัดส่วนที่เราได้ทำการประกันป้องกันเอาไว้

วิธีที่ 5 คือจัดการหรือทำการบริหารไม่ว่าจะเป็นการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ หรือภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา หรือจะเกิดจากการบริหารโดยใช้การซื้อขายหุ้นอย่างเป็นระบบ ตามสัญญาณทางเทคนิค หรือระบบที่มีการออกแบบเอาไว้ตั้งแต่แรก วิธีที่เลือกใช้ส่วนใหญ่จะช่วยลดความเสียหายจากการที่สินทรัพย์ที่เราลงทุนมีการเปลี่ยนทิศทาง หรือมีราคามีการปรับตัวลดลงอย่างมากได้

ครับหวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ท่านผู้อ่านมีแนวคิดเพิ่มขึ้นในการนำไปประยุกต์ใช้กับการวางแผนพอร์ตความมั่งคั่งของท่านผู้อ่าน ท้ายสุดนี้ผมก็ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านโชคดีและมีความสุขกับการลงทุนครับ

 


Edrink