หุ้นกลุ่มพลังงานกำไรโตทะลุ 100% หนุนกำไร บจ. ไตรมาส 2/65 อาจทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากความกังวลกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/65 จะถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง แต่หลังจากบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบการเงินออกมากลับพบว่า หลายกลุ่มธุรกิจมีกำไรเติบโตดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยกำไรที่เติบโตกว่า 100% จาก Stock Gain และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้ภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/65 อาจทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งผลให้ภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนทั้งปี 2565 ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
โดยนายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นในระดับ 7.7% ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าบริษัทจดทะเบียนจะสามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูงไหวหรือไม่ แต่เมื่อทยอยประกาศงบการเงินออกมากลับพบว่าบริษัทจดทะเบียนมีงบการเงินที่ค่อนข้างแข็งแรงในหลายๆ กลุ่ม ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยบวกจาก Stock Gain และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง โดยเบื้องต้นบริษัทจดทะเบียนมีการรายงานงบไตรมาส 2/65 ไปแล้วทั้งสิ้น 465 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. 2565) มีกำไรสุทธิ 3.2 แสนล้านบาท เติบโต 21% จากไตรมาส 1/65 และ 28% จากไตรมาส 2/64 คิดเป็นสัดส่วน 87% ของ Market Cap. รวมทั้งตลาด ซึ่งเป็น Sentiment ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นได้ เหมือนตลาดหุ้นสหรัฐที่งบบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาด ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นมากว่า 10% นับตั้งแต่วันที่มีการรายงานงบไตรมาส 2 ดังนั้นจึงคาดว่าภาพของตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
“ภาพรวมไตรมาส 2/65 มีปัจจัยหนุนจากหุ้นพลังงาน ทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนทำจุดพีคมากกว่าไตรมาสอื่นๆ ส่งผลให้ภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนทั้งปี 2565 จะปรับตัวดีขึ้น”
ประกอบกับ GDP ไตรมาส 2/65 ของไทยออกมาอยู่ที่ 2.5% ซึ่งมีโอกาสจะเติบโตต่อเนื่อง แตกต่างกับเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐ และ อังกฤษ ที่หดตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และมีโอกาสทยอยเข้าสู่ภาวะ Technical Recession ทำให้ภาพรวมของไทยยังคงโดดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น บวกกับกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/65 ที่เติบโตและออกมาดีกว่าคาด จะเป็นตัวเปิด Upside ให้กับประมาณการ กำไร และเป้าหมาย SET Index เบื้องต้นเป็นไปได้ที่ฝ่ายวิจัยจะปรับตัวเลข EPS ปี 2565 ขึ้นไปเหนือ 94 บาทต่อหุ้น จากเดิมอยู่ที่ ที่ 88.90 บาทต่อหุ้น ทำให้เป้าหมาย SET Index สิ้นปี 2565 มีโอกาสขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด จากเป้าหมายเดิมที่ 1,570 จุด บนพื้นฐานของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้ง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ดัชนีปรับตัวลง
อย่างไรก็ตาม กำไรบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตและออกมาดีกว่าคาด หนุนให้ Fund Flow ยังมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเดือน ส.ค. นี้ ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.85 หมื่นล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในช่วงครึ่งปีหลังฝ่ายวิจัยแนะนำหุ้นกลุ่ม Recovery ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีเกราะป้องกันดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น หุ้นกลุ่มแบงก์ KABNK, KTB หุ้นที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง CENTEL, BAM, BH, BEM
