
"จอร์จ โซรอส" คาดแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงปลายปีก่อนในด้านลบอย่างชัดเจน ตรงข้ามกับสภาพตลาดที่เกิดขึ้น ขณะที่ตลาดหุันสหรัฐพ.ย.พุ่งขึ้น 9.4% หลังชัยชนะ"ทรัมป์"
มหาเศรษฐีจอร์จ โซรอส ชอบซื้อเก็งกำไรหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ แต่ในช่วงปลายปีที่แล้ว การคาดการณ์ของเขาต่อแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐโดยรวมออกมาในด้านลบอย่างชัดเจน ซึ่งตรงข้ามกับสภาพตลาดที่เกิดขึ้น
รายการข้อมูลที่กองทุนมูลนิธิ Soros Fund Management ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์สหรัฐแสดงว่าคุณโซรอส ได้คาดผิดในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้วว่าหุ้นทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในสหรัฐจะดิ่งลง
การคาดการณ์ผิดของโซรอส ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Soros Fund Management และเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดอุดมการณ์หัวก้าวหน้าและของพรรคเดโมแครต คงจะเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเขา เพราะดัชนี S&P 500 ได้ทะยานขึ้น 8% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา
ถ้าจะดูให้ชัดขึ้นไปกว่านั้น จะเห็นว่าดัชนีตัวนี้ได้พุ่งขึ้น 9.4% ตั้งแต่ชัยชนะในต้นเดือน พ.ย. ของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโซรอส ได้คัดค้านเป็นอย่างมากมาโดยตลอด
ข้อมูลของ Center for Responsive Politics ชี้ว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากอีกอย่างหนึ่งของคุณโซรอสในไตรมาส 4 ที่ผ่านไปคือ เขาได้บริจาคเงินถึง 10.6 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของคุณฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของคุณทรัมป์
วิธีที่โซรอสใช้ในการเก็งกำไรว่าราคาหุ้นสหรัฐจะดิ่งลงในปลายปีที่แล้ว คือการถือสัญญา put options ที่จะขายหุ้นผ่านกองทุน ETF ขนาดใหญ่ 2 กองที่อิงกับดัชนีตลาดหุ้นใหญ่ๆของสหรัฐ
การศึกษาข้อมูลที่ยื่นต่อ กลต. สหรัฐที่ทำโดย S&P Global Market Intelligence พบว่ากองทุนของคุณโซรอสได้ซื้อ put options ล่วงหน้ารวม 2.5 ล้านหน่วยในกองทุน iShares Russell 2000 ซึ่งเป็นกองทุนที่อิงกับราคาหุ้นขนาดเล็ก
แต่ปรากฏว่าราคาค่าหน่วยของกองทุน ETF iShares Russell 2000 ได้พุ่งขึ้น 21% จากระดับต่ำสุดก่อนถึงวันเลือกตั้งเพียงเล็กน้อย หรือได้ปรับขึ้น 12% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา
ที่มา : Money channel แปลและเรียบเรียง โดยวิฑูรย์ อมรวิรัตนสกุล