CK กำไร ส่วน ITD ขาดทุนหนัก

CK กำไร Q3/65 ที่ 571 ลบ.โต 107% ส่วน ITD ขาดทุนหนัก 1.6 พันลบ.

CK อวดกำไร Q3/65 ที่ 571 ลบ. โต 107% รับส่วนแบ่งกำไร CKP-BEM เพิ่มขึ้น ขณะที่งานหลักยังเติบโต หนุน 9 เดือนกำไรทะลุ 990 ลบ. ด้าน ITD โค้ง 3 ขาดทุนเพิ่มเป็นกว่า 1,600 ลบ. ทำ 9 เดือนขาดทุนหนักกว่า 3,200 ลบ.

.

2 บริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ของไทย ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 ออกมาแล้ว โดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK มีกำไรเติบโตดี ทั้งจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทย่อยที่เติบโต และรายได้งานหลักที่มีต่อเนื่อง ขณะที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ยังเจอกับภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

.

* CK กำไรแจ่ม รับส่วนแบ่งกำไร 2 บ.ย่อย - งานหลักยังแกร่ง

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/65 มีกำไร 571.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.76% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่กำไร 275.22 ล้านบาท งวด 9 เดือนปี 65 มีกำไร 992.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.87% จากช่วงเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 801.12 ล้านบาท

.

งวดเก้าเดือนแรกของปี 65 มีกำไรเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 390 ล้านบาทหรือโต 43.52% ส่วนใหญ่มาจากมาจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ CKP โดยหลักเป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าและ

ไอนํ้า และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ BEM มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

.

ส่วนรายได้จากสัญญาก่อสร้าง งวด 9 เดือนอยู่ที่ 14,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,534 ล้านบาท หลังทยอยรับรู้รายได้ในการก่อสร้างทั้งโครงการที่มีอยู่และโครงการใหม่ เช่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และสัญญาที่ 3ช่วงเชียงราย-เชียงของ และ Preliminary Construction Works

.

* ITD ขาดทุนเพิ่มอีก ทะลุ 1.6 พันลบ.

บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/65 ขาดทุน 1,609.66 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 26.75% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่ขาดทุน 1,269.86 ล้านบาท งวด 9 เดือนปี 65 ขาดทุน 3,213.44 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 64 ที่ขาดทุน 853.49 ล้านบาท

.

โดยในเก้าเดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการก่อสร้าง การขาย และให้บริการ จำนวน 43,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 7,212 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากรายได้ของบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าบางแห่งเพิ่มขึ้น รวมถึงการได้รับรายได้จากโครงการใหม่ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการ อยู่ที่ 5,726 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 373 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากรายได้จากการให้บริการโครงการเหมืองแร่ลดลง

.

ด้านต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง อยู่ที่ 41,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนเป็น 7,045 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการขายและให้บริการ เพิ่มขึ้น 430 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนในการให้บริการโครงการเหมืองแร่แห่งหนึ่งเพิ่มขึ้น

.

ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 2,077 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเนื่องจากการขาดทุนจากการให้บริการก่อสร้างในต่างประเทศและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการบริการโครงการเหมืองแร่รวมถึงการขาดทุนของโครงการแห่งหนึ่งที่ต้องแก้ไขงานของผู้รับเหมาเดิมเกินกว่าที่คาดการณ์

.

นอกจากนี้บริษัทมีเงินปันผลจากกิจการร่วมค้า - ดอกเบี้ยรับลดลง และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นจากรายการซื้อตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยง และมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทที่ควบคุมร่วมกัน และกิจการร่วมค้าอีก 1,170 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากการขาดทุนเพิ่มขึ้นของบริษัทที่ควบคุมร่วมกันแห่งหนึ่งซึ่งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ

***********************************