การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในการขึ้นภาษีต่อสินค้าจากจีน กระตุ้นคาดการณ์ในตลาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟดคนหนึ่งชี้ว่า เขาอาจเห็นด้วยหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลง นับตั้งแต่เดือนม.ค. เฟดส่งสัญญาณว่า เฟดคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ เฟดพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งรวมถึง เงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดและการเติบโตของจีดีพีและการจ้างงานที่เร็วกว่าที่คาดหมาย ในทางตรงกันข้าม ปธน.ทรัมป์และเจ้าหน้าที่คณะบริหารระดับสูงของสหรัฐเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่าให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะชะลอตัวในไตรมาสนี้จาก 3.2% ของไตรมาสที่ผ่านมาเมื่อเทียบรายปี ในขณะที่ผลกระทบของแรงกระตุ้นจากการลดภาษีปีที่ผ่านมาเจือจางลง แต่เมื่อได้รับคำถามว่า ภาษีสหรัฐสามารถนำไปสู่การลดดอกเบี้ยหรือไม่ นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาระบุว่า ไม่อาจตัดเรื่องนั้นออกไปได้ เขากล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการตอบสนอง นั่นอาจเป็นไปได้ จริงๆแล้วนั่นขึ้นอยู่กับว่า ธุรกิจตัดสินใจเช่นไร และขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเรียกเก็บภาษี"