ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะหุ้น AEONTS

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
69 views

บล.กสิกรไทย ส่อง AEONTS คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 244 บาท จาก 159 บาท จากการปรับมูลค่าหุ้นขึ้น มีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/FY2564 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ และ YoY แต่แนะนำให้นักลงทุนมองเรื่องการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีของ AEONTS มากกว่า โดยคาดกำไรสุทธิปี FY2565 จะเติบโตขึ้นแข็งแกร่งที่ 62% จาก credit cost ที่ลดลง มองว่ามูลค่าหุ้นของ AEONTS ถูกกว่า KTC มากเกินไป

 

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/FY2564 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ และ YoY ฝ่ายวิจัยคาดว่า AEONTS จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/FY2564 (เดือน ก.ย.-พ.ย. 2563) ที่ 931 ลบ. ลดลง 4% QoQ และ 6% YoY จากอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลง 140bps QoQ และ 312bps YoY มาอยู่ที่ 16.86% เป็นผลจากเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบัตรเครดิต และส่วนบุคคลที่ลดลง โดยสัดส่วน NPL จะทรงตัวอยู่ที่ 3.9% ในไตรมาส 3/FY2564 และอัตราสำรองต่อหนี้สูญ (coverage ratio) จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 380% ประมาณการ โดยคาดกำไรสุทธิสะสมช่วง 9 เดือนแรกของปี FY2564 จะคิดเป็นสัดส่วนที่ 73% ของประมาณการกำไรสุทธิรวมในปี FY2564 ของเรา คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/FY2564 จะเติบโตขึ้น QoQ

 

NPL อยู่ในช่วงปลายของวัฎจักรขาขึ้น เราเชื่อว่าวิกฤตโควิด-19 ที่หนุนให้ NPLs ของ AEONTS อยู่ในวัฎจักรขาขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/FY2563 จะสิ้นสุดลงในอีก 2-3 ไตรมาสต่อจากนี้เนื่องจาก 1) เราคาดว่าความสามารถในการกลับมาชำระคืนสินเชื่อของลูกค้า AEONTS จะได้รับผลกระทบแค่เล็กน้อยเท่านั้นหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือน ต.ค. 2) เราคาดว่า GDP จะเติบโตขึ้นในปี 2564 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ปริมาณสินเชื่อของ AEONTS เติบโตขึ้น 10% ในปี FY2565 และจะส่งผลให้สัดส่วน NPL ลดลง มีแค่ธุรกิจในเมียนมาที่จะต้องตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพื่อชดเชย

ปัจจัยเสี่ยงที่มากขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในประเทศเมียนมา เราคาดว่าสัดส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.05%/4.14% ในปี FY2564-65 ก่อนที่จะลดลงมาอยู่ที่ 3.93% ในปี FY2566 ดังนั้น เราจึงคาดว่า AEONTS จะมี coverage ratio ส่วนเกินที่ 351% และบริษัทฯ จะลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลงในปี FY2565-66 จากสภาพของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

คาดกำไรสุทธิเติบโตขึ้นแข็งแกร่งในปี FY2565-66 จาก ECL ส่วนเกิน เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี FY2564/65/66 ของเราที่ +2.3%/-3.2%/+1.8% มาอยู่ที่ 3.4 พันลบ./5.5 พันลบ./7.4 พันลบ. เราคาดว่ากำไรสุทธิปี FY2565 จะเติบโตขึ้นแข็งแกร่งมากอยู่ที่ 62% หนุนจาก credit cost ที่ลดลงมาอยู่ที่ 500bps ในปี FY2565 จาก 764bps เนื่องจาก AEONTS สามารถตั้ง ECL ได้น้อยลงในปี FY2565 ผลจากปัจจัยเสี่ยงจากวิกฤตโควิด-19 ที่บรรเทาลงและปริมาณสินเชื่อที่ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 10.4% เราเชื่อมั่นว่าราคาหุ้น จะมีปัจจัยบวก เพราะประมาณการกาไรสุทธิของเราสูงกว่าของตลาดอยู่ที่ 40%/54% ในปี FY2565/66 ด้วยสาเหตุหลักจากการปรับลดประมาณการ credit cost ของเรา Valuation and Recommendation

มีช่องว่างกับราคาหุ้นของ KTC มากขึ้นหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับที่ใกล้เคียงที่สุดอย่าง KTC เราเชื่อมั่นว่ามูลค่าหุ้นของ AEONTS ถูกกว่ามากเนื่องจากราคาหุ้นขณะนี้ของ AEONTS ซื้อขายด้วย PBV ปี FY2565 ที่ 3.0 เท่า เทียบกับ PBV ของ KTC ที่ 5.3 เท่า และ PER ปี FY2565 ของ AEONTS อยู่ที่ 11.1 เท่า เทียบกับของ KTC ที่ 21.7 เท่า เราคาดว่า ROE ของ AEONTS จะแตะระดับที่ 30% ในปี FY2565 และมากกว่าของ KTC ที่อยู่ที่ 26% ในปี 2564 อิงจากตัวเลข PBV ล่วงหน้า 12 เดือนของตลาด PBV ปัจจุบัน PBV ของ AEONTS น้อยกว่าของ KTC อยู่ 3.16 เท่า ซึ่งสูงกว่าช่องว่าง PBV เฉลี่ยช่วง 5 ปีที่ 1.85 เท่า

คงคำแนะนำ “ซื้อ” AEONTS และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 244 บาท จาก 159 บาท จากการตัดสินใจของเราที่ปรับลดอัตราคิดลดที่ใช้ในวิธี DDM ของเรามาอยู่ที่ 11.93% จาก 13.4% เนื่องจากเราลด Beta ลงเป็น 1.12 เท่า จาก 1.3 เท่า เพื่อสะท้อนปัจจัยเสี่ยงของสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่น้อยลงจากวิกฤตโควิด-19 และวัฏจักร NPL ที่ขึ้นไปอยู่ระดับสุดเร็วกว่าที่คาดไว้ ราคาเป้าหมายของเราสะท้อน PER ปี FY2565 ที่ 11.1 เท่า ซึ่งเท่ากับที่ 1SD มากกว่า PER เฉลี่ย 10 ปี


คนเล่นหุ้น