BGRIM : การขยายตัวเป็นไปตามแผน แต่ยังมีความไม่แน่นอนด้านค่าไฟ

คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 702 ลบ. เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่า BGRIM จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 1/2568 ที่ 702 ลบ. เพิ่มขึ้น 44% YoY และ 1.1 เท่า QoQ
คาดรายได้จะลดลง YoY แต่ GPM ยังคงทรงตัว เราคาดว่ารายได้ไตรมาส 1/2568 ของ BGRIM จะอยู่ที่ 1.35 หมื่นลบ. ลดลง 4% YoY จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า SPP (ABPR5 - 133MW และ BIP2 - 115MW) และยอดขายไฟฟ้าที่ลดลงสำหรับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ค่าไฟฟ้าไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.2 บาท/kWh ทรงตัว YoY และ QoQ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะอยู่ที่ 18% ไม่เปลี่ยนแปลง YoY แต่ลดลงเล็กน้อย QoQ จากราคาต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้น 9% QoQ
กำไรไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มเป็นบวก เราคาดว่ากำไรไตรมาส 2/2568 จะมีแนวโน้มเป็นบวก โดยได้รับแรงหนุนจากราคา LNG นำเข้าที่ลดลง 20% QoQ เป็น 11.2 ดอลล่าร์สหรัฐฯ/mmBTU ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติในประเทศลดลง 30 บาท/mmBTU ซึ่งจะทำให้ต้นทุนก๊าซต่อหน่วยลดลง 0.25 บาท/ kWh ขณะที่การปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศอย่างเป็นทางการที่ 0.11 บาท/ kWh จะส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างค่าไฟฟ้าเทียบกับราคาก๊าซ (spark spread) เพิ่มขึ้นและ GPM กว้างขึ้น
ปรับประมาณการกำไร เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ขึ้น 10% เป็น 2.30 พันลบ. เพื่อสะท้อน spark spread ที่เพิ่มขึ้น 6% และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 3% อย่างไรก็ตาม เราปรับลดสมมติฐานกำไรปกติปี 2569 ลง 12% เป็น 2.50 พันลบ.
ปัจจัยกระตุ้นเชิงบวก เราเชื่อว่า BGRIM จะได้รับประโยชน์จากแผนของภาครัฐในการบริหารราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้า SPP เพื่อลดราคาไฟฟ้าลง ทำให้เราคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจะลดลงเร็วกว่าอัตราค่าไฟฟ้า ส่งผลให้ GPM ขยายตัว
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท