กลยุทธ์วีไอปี64 ตอนที่7 ทิวา ชินธาดาพงศ์
ดร ไพบูลย์และ ดร นิเวศน์ ดำเนินรายการ
กลยุทธ์วีไอในปี63 ของคุณมี่ หลังcrisis ทำให้หุ้นลงไป ถึง969 จุด
ทำให้การลงทุนง่ายขึ้น หุ้นตัวไหนที่เราศึกษา จะเห็นupsideแต่ละตัวได้ชัด ทำให้ลงทุนง่าย
พอถึงปี64 การvaluationตลาด EPS ตลาดปีที่แล้วปิดปีที่53บาทต่อหุ้น
ปีนี้จะได้ประมาณสูงสุด 78บาท แต่พอเจอ Covid ตั้งแต่ต้นปี 64
ทุกคนปรับEPSตลาดเหลือ62-66 บาท จริงๆแล้ว
มองด้วยPBไม่แพงแต่มีปัญหาในการมอง ปีที่แล้วเป็นปีแห่งการเล่นหุ้น
ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกหุ้น ...
ปี 63 มีเหตุการณ์พิเศษ 2-3 เรื่อง
1.คนว่างงานกันเยอะ ปกติตลาดหลักทรัพย์มีคนเปิดบัญชีใหม่300,000-350,000คน
แต่ปีที่แล้วมีการเปิดบัญชีใหม่ 660,000 คน
2. ตลาดหลักทรัพย์เก็บข้อมูลปกติคนเทรดจริงแค่300,000คน
ปีที่แล้วมีคนเทรดจริง500,000คน มีน้องใหม่เข้ามา ซึ่งหลายสื่อเชียร์หุ้นทำให้เกิดการเก็งกำไร
ตลาดหุ้นที่ดัชนี 1,500—1,600 จุดด้วย EPS ตลาดแบบนี้ คิดว่าเต็มมูลค่าไปแล้ว
อจ ไพบูลย์เสริมว่า ภัทร มองนักท่องเที่ยวปีนี้เข้ามาเพียง 2ล้านคนเอง
คุณมี่บอกว่าปีนี้การลงทุนหุ้นถือว่ายาก ต้องเลือกหุ้นที่ดี และดูกำไร (EPS)
ตลาดกลับมาอยู่ในหมวดที่มีเหตุผล
ปีที่แล้ว หุ้น100ตัว มีหุ้น under value ให้เลือกถึง 60-70ตัว
แต่ปีนี้จะมีหุ้น under value ให้ดูแค่20ตัว ต้องดูให้ดี
อจ. นิเวศน์ บอกว่าปีนี้เปิดปีนี้ด้วยความสุดยอด ขึ้น 6-7%
คุณมี่บอกว่าด้วยEPSขนาดนี้ หุ้นใหญ่จะไปไกลกว่านี้ก็ลำบาก
แต่หุ้นตัวเล็ก มีกำไร new high
การแข่งขันทางธุรกิจยากขึ้น มีคู่แข่งจากจีนเข้ามา การวิเคราะห์หุ้นก็เหมือนกัน ปีนี้ต้องระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น
อจ นิเวศน์บอกว่า มีหุ้นที่ไม่ขึ้นอีกเยอะ นักลงทุนรุ่นใหม่อดทนน้อย
แค่ไม่ขึ้น3วัน ก็ไม่ถือแล้ว
สถานการณ์แบบนี้ คุณมี่มองว่าเปลี่ยน
แต่ตลาดหุ้นมีการหลอกล่อ บางทีอาจเจอ 3-4 ปีที่หุ้นไม่ขึ้น
คุณมี่ เคยฟังเทป moneytalkที่ โจเอล กรีนแบตพูดถึง Magic formula แล้วชอบมาก
เพราะบางครั้งการลงทุนในแนววีไอ อาจได้ผลตอบแทนไม่ดี แค่ 5-6%ในบางช่วง
ดัชนี Dow Jones ปี 2000-2010 ไม่ค่อยไปไหน เพราะเจอวิกฤตหลายรอบ เช่น Crisis ดอดคอม , แฮมเบอร์เกอร์
แต่มีกองทุนที่ทำเฉลี่ยทบต้นได้ปีละ 18% แต่นักลงทุนในกองนี้ -11% เพราะนักลงทุนซื้อขายตลอดเวลา
อจ นิเวศนพูดถึง ตลาดหุ้นเวียดนามที่ไม่ไปไหนหลายปี ปีนี้ขึ้นดีมาก
แต่คุณมี่ก็เชื่อในการลงทุนวีไอ และมั่นใจในตัว อจ นิเวศน์ ที่เปรียบวีไอคล้ายๆเต่า
การลงทุนแบบเต่า ลักษณะของเต่า คือ กินอะไรที่อยู่นิ่ง (หมายถึงเคลื่อนไหวช้า แต่มั่นคง)
แต่การกินของปลา ชอบกินเหยื่อที่กระดุกกระดิก และ ปลาความจำสั้น
ส่วนเต่าความจำแม่น จำฐานที่เกิดได้ วางไข่ที่หาดที่เต่าเกิด
ตอนนี้อาจเป็นช่วงที่ปลาทองกำลังเล่นหุ้นอยู่ ส่วนเต่าก็เหงาหงอยเศร้าซึม
อจ ไพบูลย์ถามคุณมี่ ถึงตลาดหุ้นเวียดนาม และ หุ้นต่างประเทศที่มี PE สูง มองว่าอย่างไร
คุณมีตอบว่า ต้องดูในแต่ละตลาด เช่น ตลาดอเมริกา เคยเข้าไปศึกษา (น้องที่เข้าไปลงทุนได้กำไรดีมาก)
พบว่ามีหุ้นกลุ่มเดียวที่ขึ้น เลยต้องศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
การลงทุนในอเมริกา ก็คล้ายกับลงทุนในไทย คนฉลาดชนะ คนโง่แพ้
แต่ปี 2008-2014 นั้น ถึงแม้คนโง่มาลงทุนในตลาดหุ้น ก็ชนะ
ไม่ต้องรู้เรื่องหุ้นเยอะ แต่ภาพรวมของธุรกิจดี GDP โต
ดังนั้นแบ่งแยกตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรก ตลาดหุ้นที่คนเก่งเท่านั้นถึงจะทำกำไรได้ ผมไม่สนใจ ลงทุนหุ้นไทยดีกว่า
กลุ่มที่สองที่สนใจ มีตลาดหุ้นต่างประเทศสองตลาดที่น่าสนใจ
เมืองจีนและเวียดนาม มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างGDP
ที่เห็นได้ชัดคือ Covid กระทบรุนแรง แต่GDPของจีนและเวียดนามเป็นบวก
PE ก็ไม่ได้แพงมาก จีน A share PE 15 เท่า , H share 8 เท่า เปรียบกับ
PE ตลาดหุ้นอเมริกา 28 เท่า
ส่วนตลาดหุ้นเวียดนาม PE 20 เท่า ก็ยังมองว่าOkเมื่อเทียบกับการเติบโต
เราไปสองประเทศนี้ที่กำลังเติบโตสูง 6-7% ถึงแม้เราไม่เก่งสุด แต่เราก็โตไปกับเขาได้
อินโดนีเซียก็น่าสนใจ GDPก็โตมาก
ตอนนี้คุณมี่ ไปจีนประเทศเดียว ในสัดส่วน30%ของ Port
ก่อนหน้านี้ลงทุนหุ้นเล็ก แต่ต่อมาเริ่มเปลี่ยนไปลงทุนหุ้นที่ทุกๆคนรู้จัก
(มาจากการฟังคุณตันเลือกตำแหน่งของที่ดินที่ซื้อ ต้องเป็นที่รู้จัก)
เช่น Xiaomi , กล้อง Hikvision
เพื่อกันแรงการโกง ถึงแม้ PEสูงก็ตาม Xiaomi ซื้อตั้งแต่ 10เหรียญ ตั้งแต่ April 2020
อจ ไพบูลย์ บอกว่า คนทั่วไปเลือกหุ้นรายตัวยาก แนะนำลงทุนผ่านกองทุนรวมไหม
คุณมี่ตอบว่า สามารถลงทุนผ่านกองทุน หรือ ETF ได้ ยิ่งถ้าเป็นการลงทุน ETF ในจีน
จะมีแยก ETF ที่ลงทุนในแต่ละแบบ เช่น กลุ่มTechnology ซื้อ K wave เลย
ส่วน consumer ให้ซื้อ หนงฝู ขายน้ำแร่ หรือ เหมาไถ ที่ขายเหล้า
ไม่แนะนำให้ดัชนีรวม เพราะหุ้นธนาคารไม่ไปไหนเลย
เดี๋ยวนี้ กองทุนไทย เริ่มมีให้แยกซื้อแต่ละกลุ่ม หรือ หุ้นตามTrend ได้แล้ว
(Fund of Fund) แต่มีข้อเสียคือ เสียค่าธรรมเนียมทั้งสองฝั่งคือค่าบริหารทั้งฝั่งไทยและจีน
อจ ไพบูลย์ เสริมว่ายังค่าธรรมเนียม Front end ตอนซื้อกองทุนด้วย
คุณมี่ พูดถึงการลงทุนใน ETFว่า จะไม่พยายามเก็งกำไร เข้าออก แต่จะลงทุนแบบวีไอ
และตั้งใจว่าจะถือยาว ไม่ขาย แต่การลงทุนในหุ้นไทย จะถือแค่1-2ปี
เช่น Xiaomi มองเรื่องIOT เป็น Theme ระยะยาว
ส่วนที่ลงทุนใน Hikvision จะมอง Theme Smart city ซึ่งจะใช้กล้องเยอะมาก
เดี๋ยวนี้นอกจากการดูเรื่องการจราจรแล้ว ยังเอามาจัดการเรื่องเวลาในการเปิด ปิดไฟจราจรด้วย
ถือเป็น Mega trend ของต่างประเทศจริงๆ