7 หุ้นเสี่ยง อาจถูกเพิกถอน กระทบรายย่อย 6 หมื่นราย
สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ฯ เหตุเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนมีการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ เช่นสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินการลดลงหรือกำลังจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ,หยุดประกอบกิจการทั้งหมด/ เกือบทั้งหมด ,ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และงบการเงินตรวจสอบฉบับล่าสุด แสดงส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์
หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีกฎเกณฑ์ให้บริษัทแก้ไข และสามารถกลับมาเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ได้อีกครั้ง โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ที่มีการอัพเดตรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ซึ่งอัพเดต วันที่ 24 พ.ย. 2563 ปรากฏรายชื่อทั้งหมด 7 บริษัท โดยบริษัทเหล่านี้กำลังอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน ซึ่งมีหุ้นที่นักลงทุนรู้จักและคุ้นเคย รวมถึงนักลงทุนบางรายอาจยังคงสถานะถือหุ้น (ติด) อยู่แบบไม่ยากถือ หรือพูดง่ายๆว่าออกไม่ทันนั่นเอง!!
โดย 7 หุ้นดังกล่าวประกอบด้วย 1.บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE 2.บริษัท เอส แอล เอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SLM 3.บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PE 4.บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC
5.บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR 6.บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF 7.บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE วันนี้ Wealthy Thai จะพานักลงทุนไปลงรายละเอียดกันว่า ขณะนี้หุ้นในกลุ่มดังกล่าวกำลังปฏิบัติตามเกณฑ์อย่างไรบ้าง
โดยขณะนี้ PAE ได้เวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนอีก 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ศาลล้มละลาย มีคำสั่งเห็นชอบแผนการฟื้นฟูกิจการ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.64 โดยหากศาลฯมีคำสั่งไม่เห็นชอบด้วยแผนก่อนวันที่ 31 มี.ค.64 หรือ ศาลฯยังไม่มีคำสั่งเห็นชอบ ภายในวันที่ 31มี.ค.64 ไม่ว่ากรณีใดกรณีหนึ่ง ทางตลาดหลักทรัพย์ฯอาจจะพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์
IFEC ให้บริษัทนำส่งงบการเงินงวดไตรมาส1/60-ไตรมาส 1/62 ที่ผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค.63 ส่วน PACE ยังเป็นบริษัทที่มีรายชื่อยังไม่ได้ส่งงบการเงิน ขณะที่หุ้น SLM และ TSF ปัจจุบันไม่มีงบการเงินที่ยังไม่ได้นำส่ง
ส่วน POLAR ตลาดหลักทรัพย์ได้ให้บริษัทนำส่งงบการเงินงวดไตรมาส1/60 และไตรมาส 1/62 ที่ผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 31 ม.ค.64
POLAR เตรียมฟ้องศาลฯ
อย่างไรก็ตาม นาย ทิศชวน นานาวราทร ประธานกรรมการ POLAR ออกมาตอบโต้ตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีที่ตลาดหลักทรัพย์จะเพิกถอนหุ้น POLAR ว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้มีหนังสือมายังบริษัทว่า หุ้นสามัญของ POLAR อาจจะถูกเพิกถอนจากการเป็นทรัพย์ ตามข้อบังครับของตลาด ซึ่งบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนดังกล่าวให้หมดไปในระยะเวลาที่ตลท.กำหนด และบริษัทไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไข และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนนี้ได้ในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นคณะกรรมการ ตลท.จึงมีมติให้เพิกถอนหุ้นจากตลาด
โดย บริษัทไม่เห็นพ้องด้วยกับเหตุผลและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ตลท.ทุกข้อ ทุกประด็น โดยบริษัทเห็นว่าหุ้นสามัญของบริษัทไม่มีเหตุเข้าข่ายถูกเพิกถอน ไม่ว่าข้อใด ซึ่งเหตุดังกล่าวถ้าหากจะมีอยู่จริง ก็เป็นเหตุที่สามารถแก้ไขได้ภายในระยะเวลาอันสมควร และว่าดุลยพินิจของตลท. ที่ให้เพิกถอนหุ้นเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อข้อเท็จจริง
ทั้งนี้บริษัทจะอุทธรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ ตลท.ทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด รวมถึงบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง คดีอาญา และคดีปกครองกับบุคคลที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท เพื่อเป็นการให้บริษัทสามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น 9,332 ราย ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักลงทุนรายย่อยได้อย่างสูงสุด และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง และการดำรงอยู่ของ ตลท.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก