ห้องเม่าปีกเหล็ก

ปัจจัยเสี่ยงท่วมเดือนมี.ค.

โดย poomai
เผยแพร่ :
66 views

ปัจจัยเสี่ยงท่วมเดือนมี.ค. ต้นเหตุต่างชาติเทขาย”หุ้น-พันธบัตร” ฉุดบาทอ่อน

 

 

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงปลายเดือนก.พ. ถึงต้นเดือนมี.ค. 2562 หลังจากแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 5 ปี ที่ 31.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าเข้าใกล้แนว 31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ

 

 

ในอีกด้านหนึ่ง เงินดอลลาร์ฯ ก็ขยับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุลเช่นกัน โดยเงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2562 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาค่อนข้างดี) และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ภายหลังจากที่มีสัญญาณเชิงบวกจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นภาพที่ค่อนข้างเร็วและมากกว่าสกุลเงินเอเชียอื่นๆ โดยหากเทียบการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างวันที่ 20 ก.พ.-5 มี.ค. 2562 จะพบว่า ในขณะที่ ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวขึ้น (แข็งค่า) ประมาณ 0.3% เงินบาทกลับอ่อนค่าลงถึง 2.4% ซึ่งมากกว่าเงินเยนญี่ปุ่น และเงินรูเปียห์อินโดนีเซีย ซึ่ง อ่อนค่าตามมาที่ประมาณ 1.0% และ 0.8% ตามลำดับ

จากทิศทางของเงินบาทที่อ่อนค่าลงค่อนข้างมากในช่วงนี้ ทำให้เมื่อเทียบภาพรวมการเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นปี 2562 แล้ว เงินบาทกลับมาเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาค โดยแข็งค่าขึ้น ประมาณ 2.2% สลับกับค่าเงินรูเปียห์ที่ขยับขึ้น เป็นอันดับ 1 ด้วยอัตราการแข็งค่าที่ 3.0% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ

แต่ค่าความผันผวนของเงินบาทนับตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ขยับขึ้น มาที่ 5.1% สูงขึ้นกว่าค่าความผันผวนของปี 2561 ที่อยู่ที่ 4.6% ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งฟอร์เวิร์ด และออปชัน รวมถึงการใช้สกุลเงินท้องถิ่น จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถประเมินกระแสรายรับ-รายจ่าย จากการส่งออก-นำเข้าได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่ามีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะใกล้ๆ นี้ จะมีทั้งปัจจัยภายในประเทศอาทิ ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย และปัจจัยทางการเมืองในประเทศที่จะมีการเลือกตั้ง

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะท่าทีการดำเนินนโยบายการเงิน และรายงาน Dot plot จากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 19-20 มี.ค. 2562 ตลอดจนกำหนดการพบกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีน ในวันที่ 27 มี.ค. 2562 ซึ่งแม้จะมีสัญญาณในเชิงบวกแต่คงต้องยอมรับว่า ยังคงคาดเดารายละเอียดของผลการเจรจา และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่ายได้ยากในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นทางการเมืองภายในสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการที่ยังคงมีอีกหลายตัวแปร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรออยู่ในระยะข้างหน้า ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เงินบาทอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างผันผวนต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา

 

ค่าบาทแข็งค่ารอบ5ปี สวนทางต่างชาติเทขายหุ้น-พันธบัตรเงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 31.10 ไปที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งนับเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 5 ปี โดยทิศทางการแข็งค่าของเงินบาท ยังคงสอดคล้องกับการแข็งค่าของเงินหยวน

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


poomai