ห้องเม่าปีกเหล็ก

Baidu ลงทุนมากกว่าพันล้านเหรียญเพื่อสร้างปัญญาประดิษฐ์ ที่ล้ำหน้ากว่า Google

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
64 views

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ baidu beijing
Baidu บริษัท IT ที่มีชื่อเสียงมากทางด้าน Search Engine ของชาวจีน มีผู้ใช้บริการเข้าไปคลิ๊กที่เว็บมากกว่า 600 ล้านครั้งต่อเดือน
(ที่มาภาพ : Yahoo Finance)

-------------------------------------
สาระสำคัญ
- Baidu กำลังก้าวเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้าน Information Technology อย่างที่ google กำลังทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Search Engine การสั่งการด้วยเสียง ปัญญาประดิษฐ์ หรือแม้แต่รถที่ไม่ต้องใช้คนขับ นอกจากนี้ Baidy กำลังพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ในด้านของการตลาด การโฆษณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

- ถ้า Baidu ทำได้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด ผู้ให้บริการด้าน Online Search ที่มีผู้ใช้เข้าไปดูมากกว่า 365 ล้านคนต่อเดือน และเพียงพอต่อการเก็บข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค
-------------------------------------

 


ราคาหุ้นเปรียบเทียบระหว่างหุ้น Baidu และ Google
(ที่มาภาพ : Yahoo Finance)

สำหรับคนไทยแล้วคงจะรู้จักเว็บไซด์ Search Engine อันโด่งดังอย่าง Google แต่ในประเทศจีนแล้วกลับไม่นิยมใช้ google สักเท่าไรนัก เพราะเขามี Search Engine เป็นของตัวเอง นั้นก็คือ Baidu  ตอนนี้ Baidu กำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองให้เป็นเบอร์ 1 ทางด้าน Search Engine แทน google โดยการลงทุนอย่างหนักในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่า การพัฒนาให้เครื่องจักรมีการทำงานอัตโนมัติหรือสามารถคำนวนเองได้นั้นจะเป็นตัวทำลายอุตสาหกรรมยุคเก่าให้หมดไป เหมือนเรื่องที่ยุคอุตสาหกรรมเข้ามาทำลายยุคไล่ล่าอาณานิคมอย่างไรอย่างนั้นเลย

การลงทุนขนาดใหญ่ 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 3 พันล้านดอล์ล่าร์สหรัฐ) เงินก้อนนี้ถูกใส่ลงไปในเรื่องของ research and development (R&D) เกี่ยวกับระบบ AI คุณ Wang Haifeng รองผู้อำนวยการฝ่ายปัญญาประดิษฐ์กล่าวกับนิตยสาร Forbes ว่า เราทุ่มงบไปมากกับเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ อย่างไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา เราทุ่มงบไป 35% ของงบประมาณทั้งหมด หรือประมาณ 412 ล้านเหรียญไปในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ การสั่งงานด้วยเสียง หรือแม้แต่การพัฒนาให้รถยนต์สามารถขับได้ด้วยตนเอง และยังสร้างแอพลิเคชั่นทางด้านการตลาด การโฆษณาในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเรามองว่ามันจะเป็นเทรนของอนาคตต่อไป คนรุ่นใหม่จะใส่ใจสุขภาพ จะรักสุขภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องของปัญญาประดิษฐ์เป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นทางเราจึงต้องเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งหมด ไม่ใช่โครงการต่อยอดจากอะไรทั้งนั้น ดังนั้นมันจึงต้องมีการใส่เงินเข้าไปเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่ Baidu ที่พัฒนาเพียงอย่างเดียว ยังมีคู่แข่งอย่าง Tencent ที่เป็นเจ้าของโปรแกรมส่งข้อความอย่าง WeChat เบอร์ 1 ในจีน และตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Alibaba ของ Jack Ma เข้ามาแข่งขันทางด้านสร้างปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย ..

ที่ผ่านมา Alibaba มีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับการโฆษณาดิจิตอลถึง 29% หรือประมาณ 42 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ Baidu มีส่วนแบ่งลดลงจาก 28% เหลือเพียง 21%




ส่วนแบ่งทางการตลาดของ 3 บริษัท Baidu Tencent Alibaba
(ขอบคุณแหล่งที่มาภาพ Forbes, Chart by Yue Wang)

เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา Baidu ประกาศผลประกอบการลดลงถึง 9% หลังจากตกมาก่อนหน้านี้แล้วถึง 14% ซึ่งเป็นผลจากการที่ฝ่ายพัฒนา IT ลงทุนไปกับเทคโนโลยีประเภท Online และ Offline มากเกินไป ตอนนี้ Baidu ลงทุนไปมากกับการพัฒนา "ปัญญาประดิษฐ์" โดยใช้คนมากกว่า 1700 คน คัดเลือกมาจากนักศึกษาระดับหัวกะทิที่มาจากมหาวิทยาลัยช้ันนำ สร้างห้องแลป 4 ห้องใหม่ในปักกิ่งและซิลิคอนวัลเลย์ นอกจากนี้ยังจ้างมือคอมพิวเตอร์มากประสบการณ์อย่าง Lu Qi ผู้เคยทำงานให้กับไมโครซอฟมาก่อน

"ตอนนี้ Baidu มุ่งเน้นไปกับการสร้างทีมที่มีบุคลากรระดับหัวกะทิจากมหาลัยชั้นนำ เพื่อให้ได้ปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดมาก เราต้องการเป็นเบอร์ 1 ทางด้านนี้" Wang Haifeng กล่าว

ตอนนี้ Baidu มีผู้ใช้บริการมากถึง 665 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งคนเหล่านี้ใช้สำหรับค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อไปต่อยังเว็บไซด์อื่นๆ และยังมีคนบางกลุ่มที่ใช้เว็บ Baidu แบบจริงจังเพื่อใช้ในการค้นหาข้อมูลเชิงลึก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ระบบปัญญาประดิษฐ์ของเราจะเก็บข้อมูลผู้บริโภคเหล่านี้ไว้เพื่อประมวลผลในการเรียนรู้ถึงพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ และพวกเราจะรู้ได้ว่าอะไรคือ"เทรน" ของคนยุคใหม่ในอีก 10 ปีข้างหน้า

"Baidu คือ เบอร์ 1 ทางด้าน Search Engine ของจีนอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้คอมพิวเตอร์มีความฉลาดขึ้นและโต้ตอบกับผู้บริโภคได้อย่างเข้าใจ" Wang Shengjin ศาสตร์ตราจารย์ของมหาวิทยาลัย Tsinghua University กล่าว

ทางทีมงาน Baidu เปิดเผยว่า การสั่งงานด้วยเสียง (voice recognition) มีความแม่นยำถึง 99.7% เลยทีเดียว จะเปิดให้ใช้บริการเร็วๆนี้ รวมถึงระบบการจดจำใบหน้าอีกด้วย


Robin Li มหาเศรษฐีชาวจีน และผู้ก่อตั้ง Baidu
(ขอบคุณแหล่งที่มาภาพ Fortune)

ดูเหมือนความทะเยอทะยานของ Baidu จะยังไม่จบ เมื่อปีที่แล้วในงาน World Internet Conference ใน Wuzhen ผู้ก่อตั้ง Baidu อย่าง Robin Li กล่าวไว้ว่า "ยุคของ Mobile Internet มันจบลงแล้ว ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคของอนาคต คือยุคของปัญญาประดิษฐ์" Li พยายามทำให้ Baidu เป็นบริษัทเบอร์ 1 ทางด้านปัญญาประดิษฐ์

-----------------------
ที่มา : forbes.com (Inside Baidu's Billion Dollar Push To Become An AI Global Leader)
เขียนโดย : Yue Wang ,  Forbes Staff
สรุปโดย : SiTh LoRd PaCk


SiTh LoRd PaCk