
รัฐบาลจีนไม่สามารถจัดการกับคริปโทเคอเรนซีได้ เนื่องจากการแบนคริปโทฯในปีที่แล้ว แต่ประเทศจีนได้กลับมาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขุด Bitcoin (BTC) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามรายงาน
.
.
ประเทศจีนกลายเป็นผู้ให้บริการ hash rate Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเดือนมกราคม 2022 หลายเดือนหลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่นสั่งห้ามการดำเนินการคริปโทฯทั้งหมด ในประเทศ ตามการอัปเดตล่าสุดจากดัชนีการใช้ไฟฟ้าของ Cambridge Bitcoin (CBECI)
.
.
ผู้ขุด Bitcoin ในประเทศจีนคิดเป็น 21.1% ของการกระจาย hash rate การขุด BTC ทั่วโลกเมื่อต้นปี 2565 รองจากสหรัฐอเมริกาซึ่งผลิต 37.8% ของอัตราแฮชทั้งหมด ณ เดือนมกราคมตามข้อมูล
.
.
ประเทศจีนเคยเป็นประเทศขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยhash rate BTC คิดเป็น 75% ในปี 2019 hash rate ลดลงเหลือ 0% ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2564 หลังจากการปิดฟาร์มการขุด cryptoในประเทศหลายครั้ง
.
.
แม้จะมีการห้าม crypto ในเดือนกันยายน 2021 แต่ hash rate ก็เพิ่มขึ้นเป็น 22.3% ในเดือนนั้นและไม่ได้ลดลงต่ำกว่า 18% ในช่วงที่วิเคราะห์
.
.
การอัปเดต CBECI ล่าสุดยังส่งสัญญาณการลดลงเล็กน้อย hash rate ในคาซัคสถาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขุด BTC ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ส่วน hash rate BTC ของคาซัคสถานลดลงจาก 18% ในเดือนสิงหาคมเป็น 13.2% ในเดือนมกราคม
.
.
ข้อมูล CBECI ยังแสดงให้เห็นว่าตอนนี้นักขุด ขุดได้มากถึง 9% ของ hash rate BTC ทั่วโลกในตำแหน่งที่ไม่ได้กำหนด แคนาดาและรัสเซียเป็นศูนย์กลางการขุดที่สำคัญต่อไปนี้ ซึ่งคิดเป็น 6.5% และ 4.7% ตามลำดับ
.
.
นอกจากการถอนตัวจากสามประเทศที่ใหญ่ที่สุดด้วยพลัง hash rate ของ BTC แล้ว รัสเซียยังเห็น hash rate ที่แท้จริงลดลงจาก 13.6 EH/s ในเดือนสิงหาคมเป็น 8.6 EH/s ในเดือนมกราคม
.
.
การอัปเดต CBECI ใหม่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นเกี่ยวกับการกระจาย hash rate ของตลาดการขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุด ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าจอร์เจีย เท็กซัส และเคนตักกี้รวมกันเป็นสามรัฐที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของ hash rate คิดเป็น 32%, 11.2% และ 10.9% ตามลำดับ ทั้งสามรัฐรวมกันมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของอัตราการแฮชทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
