ห้องเม่าปีกเหล็ก

โค้งสุดท้ายตลาดหุ้นปี 61

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
88 views

ฝ่ายวิจัยบริษัทโบรกเกอร์หลายสำนักเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองตลาดหุ้น ทั้งระยะสั้นหรือในปีนี้และระยะยาวหรือปีหน้า โดยประเมินว่า บรรยากาศการลงทุนคงไม่สดใสนัก และเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส จำกัด (มหาชน) ปรับประมาณการอัตราเติบโตของตลาดหุ้น โดยคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 4 หรือโค้งสุดท้ายปีนี้ จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,620 - 1,733 จุด แต่หากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ ดัชนี ฯ จะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,790 - 1,848 จุด

นอกจากนั้นยังลดประมาณกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง โดยคาดการณ์ว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดจะมีจำนวน 1.07 ล้านล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10.30 %

การที่สำนักวิจัยโบรกเกอร์หลายแห่ง ปรับลดตัวเลขการเติบโตของตลาดหุ้นในด้านต่าง ๆ เนื่องจากสถานการณ์การลงทุนเปลี่ยนไป มีปัจจัยความเสี่ยงมากขึ้น

โดยแนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ เพิ่งประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และมีแนวโน้มปีนี้จะขึ้นอีก 1 ครั้ง ส่วนปีหน้าขึ้นอีก 3 ครั้ง

อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น จะทำให้เงินทุนไหลออก โดยปีนี้ต่างชาติอาจขายจนส่งท้ายปีเก่า และไม่กลับมาซื้อ

ส่วนเศรษฐกิจโลกปีหน้า มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยและระบบเศรษฐกิจ จนประมาณการอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีหน้าไว้ต่ำ โดยขยายตัวเพียง 4.2% ขณะที่ปีนี้ประมาณการจีดีพีเติบโตระหว่าง 4.4 % - 4.8 % และยังไม่นับถึงตัวแปรการโจมตีค่าเงินของประเทศเกิดใหม่

แม้ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง และถือเป็นข่าวดีที่อาจทำให้ต่างชาติกลับมาใจตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แต่สถานการณ์การเมืองเป็นเพียงองค์ประกอบส่วนหนึ่งในการตัดใจของต่างชาติ เท่านั้น

โดยปัจจัยสำคัญที่ต่างชาตินำไปพิจารณาตัดสินใจลงทุนคือ ภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยพ้นฐานของตลาดหุ้น
ถ้าเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตที่ดี มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนสูง ต่างชาติจะกลับเข้ามาเอง ไม่ต้องเสียแรงกวักมือเรียก
แต่การที่ยังไม่กลับมา เพราะไม่มั่นในแนวโน้มการลงทุน

ตลาดหุ้นมีลักษณะประคับประคองตัว เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ มานับสัปดาห์แล้ว โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ดัชนี ฯ ขึ้นลงเพียงไม่กี่จุด เว้นแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ในภาวะซื้อขายภาคบ่าย ซึ่งดัชนี ฯ เคลื่อนไหวผิดปกติ เกิดความผันผวนรุนแรง เพราะมีการทุบหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อผลพวงการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าดัชนี ฯ 50


แนวโน้มตลาดระยะสั้น เคลื่อนไหวอย่างไม่มีทิศทาง นักลงทุนต่างรอคอยสัญญาณชี้นำตลาด แต่มองไม่เห็นข่าวดีที่รอคอย มีแต่ปัจจัยลบที่พร้อมปะทุ ทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ สงครามการค้า การโจมตีค่าเงิน และการเคลื่อนย้ายทุนออกของต่างชาติ

บรรยากาศการลงทุนช่วงท้ายปี อาจตรงกันข้ามกับช่วงต้นปี เพราะต้นปีตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความคึกคัก ดัชนี ฯ พุ่งทะยานทะลุ 1,830 จุด ก่อนปรับฐานลงมาต่อเนื่อง และปลายปี

โบรกเกอร์หลายแห่งส่งคำเตือนให้ระมัดระวังความผันผวน รวมทั้งประเมินแนวโน้มการลงทุนปีหน้า จะซบเซาลงอีก
นักลงทุนจะต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับความเงียบเหงาของตลาดหุ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างยืดเยื้อ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีนี้

ช่วงเวลาทำเงินจากตลาดหุ้นอาจผ่านไปแล้ว กลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญช่วงเวลาต่อจากนี้จึงอยู่ที่ ทำอย่างไรจึงไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวจากตลาดหุ้นเท่านั้น

หมายเหตุ 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี พ.ศ 2561 

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com


ศักดิ์