โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ : 
63 views
"อย่าคาดหวังคนดีในตลาดหุ้น"
นี้คำโปรยของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ สารคดีชั้นเยี่ยมที่สามารถดูได้ที่ Netflix จริงๆคนทั่วไปดูเอาสนุกก็ได้ จะได้เข้าใจโครงสร้างว่า "ทุนนิยม" เมื่อกระโดดเข้ามาเจอกับ "ตลาดหุ้น" มันก็เป็นเรื่องของเงินและผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
... สำหรับนักลงทุนแล้วเป็นสารคดีที่ "ต้องดู" ให้ได้อย่างแน่นอนครับ ...
เรื่องราวของสารคดีชุดนี้ จะกล่าวถึง "การโกง" ของบริษัทจีนเล็กๆหลายแห่งที่สามารถ "หลุด" เข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คได้ นักลงทุนอเมริกาส่วนใหญ่เข้าใจว่า บริษัทจากจีนโตเร็วจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงาม แค่จอง IPO ก็รับผลตอบแทนได้เลยเมื่อวันเปิดตลาดเป็น 30%-100% โดยไม่เข้าใจถึงความเสี่ยงว่าธุรกิจดีจริงหรือไม่ บริษัทนี้มีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า เมื่อความจริงปรากฏ นั้นก็ได้เวลา "ถล่ม" ของตลาดหุ้นเสียแล้ว ...
ถามว่าบริษัทจากประเทศจีนทำไมถึงมาซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกาได้ ?
ในช่วงแรกสารคดีพยายามจะอธิบายว่า การขึ้นของหุ้นอเมริกาอย่างต่อเนื่องทำให้คนอเมริกาเข้าใจว่าบริษัทในประเทศเริ่มอิ่มตัวแล้ว ดังนั้นบริษัทวาณิชยกิจจะต้องหา "โปรดักส์" ใหม่ๆ มาเสมอลูกค้าเพื่อให้เกิดการซื้อขาย พอดิบพอดีที่มีบริษัทจีนแห่งหนึ่งชื่อ Orient Paper ทำธุรกิจผลิตกระดาษชำระและรีไซเคิลกระดาษ เข้าซื้อกิจการธุรกิจเหมือง Buffalo Mining ซึ่งลิสต์อยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์คอยู่แล้ว กลายเป็นว่าบริษัท Orient Paper เข้ามาซื้อขายในตลาดนิวยอร์ค เราเรียกกระบวนการนี้ว่า Backdoor Listing หรือ "การซื้อกิจการทางประตูหลัง" อย่างที่เราเห็นหลายบริษัทของประเทศไทยก็มีกรณีของ Backdoor Listing อยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นก็มีการว่าจ้างกลุ่มผู้สอบบัญชีขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า "Big4" ซึ่งมีอิทธิพลมากในวงการการเงิน มีบริษัทที่ดูแลให้คำปรึกษาทางการเงินที่มีชื่อเสียง เพื่อยืนยันว่าบริษัทจีนเหล่านี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร แน่นอนว่างบการเงินถูกแต่งมาอย่างเรียบร้อย มันต้องออกมาดูดีอยู่แล้ว .... ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาแต่บิ๊กโฟหรือผู้ตรวจสอบบัญชีเหล่านั้นเขาเขียน "หมายเหตุ" ไว้อยู่แล้วซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนไม่อ่านกัน หลังจากนั้นก็ออกเดินสายโปรโมตบริษัทตัวเองให้เป็นที่รู้จัก นักลงทุนเข้าถึง สถาบัน กองทุนขนาดใหญ่เชิญชวนให้มาซื้อหุ้น แล้วประกาศว่าบริษัทของเราดี เติบโตได้อีกเยอะ แสดงความมั่นใจ เมื่อมีคนเข้ามาซื้อก็ยิ่งดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น คนก็ยิ่งสนใจมากขึ้น ทุกอย่างดูดีไปหมด .. จนกระทั่ง
มีกลุ่มคนเริ่มสงสัยแล้วว่าบริษัทนี้มีอยู่จริงหรือเปล่า ทำธุรกิจจริงๆไหม จึงเดินทางไปประเทศจีน แอบบันทึกกล้องจากมุมสูงเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เพื่อดุว่ามีพนักงาน หรือรถเข้าออกบ้างหรือไม่ ปรากฏว่าใน 1 วัน มีรถเข้าออกเพียงครั้งเดียว ไม่มีพนักงานเดินในโรงงาน และมีพนักงานแค่คนเดียวในโรงงาน คือ ยามเฝ้าประตู ... ! คนที่แอบตั้งกล้องให้สัมภาษณ์ว่า เขาแทบไม่อยากเชื่อเลย มันผิดวิสัยบริษัทหรือโรงงานจริงๆ ที่จะต้องมีพนักงานเข้าๆออก หรือรถบรรทุกสินค้าเข้าไปรับสินค้า แต่ที่นี้กลับไม่มีกิจกรรมอะไรในโรงงานเลย เมื่อเดินทางกลับอเมริกาจึงเข้าไปร้องเรียนให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นจริง จึงเข้าปิดสำนักงานในอเมริกา จ่ายแค่ค่าปรับ ส่วนเจ้าของนั่งอยู่ประเทศจีน ไม่สามารถเอาผิดหรือจับขังคุกได้ จะหันไปเอาผิดผู้ตรวจสอบบัญชี ทางผู้ตรวจสอบก็อ้างว่า "หมายเหตุ" ไว้แล้ว ไม่สามารถเอาผิดได้เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง สรุปแล้วเจ้าของบริษัทได้เงินจากการขาย IPO เสียค่าปรับนิดๆหน่อยๆ ส่วนตัวเองอยู่ประเทศจีนไม่มีกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ผู้ที่เสียหายมากที่สุด คือ "นักลงทุน" ชาวอเมริกานั้นเอง
อีกกรณีหนึ่งเป็นของบริษัท Sino Clean Energy .Inc ที่เคลมว่าตัวเองสามารถนำถ่านหินบดผสมกับน้ำ จะสามารถดึงพลังงานออกมาใช้ได้โดยไม่ต้องผ่านความร้อนให้เกิดมลภาวะ ถือเป็นพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าโซล่าร์ฟาร์มหรือพลังงานลม มีโรงงานอยู่ที่ประเทศจีน ได้เข้าซื้อบริษัทเหมืองแห่งหนึ่งที่ถูกลิสต์ในตลาดหุ้นอเมริกา ทำให้บริษัทนี้สามารถเข้าซื้อขายได้เลย หลังจากซื้อขายไปเรียบร้อยแล้ว มีกลุ่มคนขอเข้าไปดู ปรากฏว่า 1 ใน 2 ของโรงงานเต็มไปด้วยถ่านหินที่วางไม่เป็นระเบียบ มีบ่อน้ำ 1 บ่อ ที่ดูไม่มีมาตรฐาน และโรงงานก็เต็มไปด้วยฝุ่น เครื่องจักรที่มีแต่สนิมเหมือนกับว่าไม่มีการขยับมานานแล้ว รัฐบาลอเมริกาสั่งหยุดซื้อขายหุ้น Sino Clean Energy เพื่อขอเข้าตรวจสอบแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะผู้บริหารอยู่ประเทศจีน ส่วนผู้ที่เสียหายที่สุด คือ กลุ่มนักลงทุน
ช่วงท้ายของสารคดี มีการเปิดเผยด้วยว่า เม็ดเงินที่นักลงทุนเสียหายตีเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และการสูญเสียเงินในครั้งนั้นไม่สามารถจับผู้กระทำความผิดชาวจีนได้เลยแม้แต่คนเดียว
นี้ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆของสารคดี The China Hustle ที่นักลงทุน "ต้องดู" เราจะได้เข้าใจว่า "อย่าคาดหวังคนดีในตลาดหุ้น" ครับ
