ห้องเม่าปีกเหล็ก

ค้าปลีก-รับเหมา-ท่องเที่ยว ดี๊ด๊า รับอานิสงส์แจกเงินสู้โควิด-19

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
62 views
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -5 มี.ค. 63 9:40: น.

  โบรกฯ  เปิดโผหุ้นรับประโยชน์  มาตรการพยุงเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19  ชุดแรก  ค้าปลีก - รับเหมา - ท่องเที่ยว เรียงคิวรับอานิสงส์ พร้อมลุ้นเฟสต่อไปกระตุ้นท่องเที่ยว - ออกนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา

  บล.หยวนต้า เปิดเผยในบทวิเคราะห์รายวันว่า วานนี้(4 มี.ค.63) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ต่อ ครม. เศรษฐกิจวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นมาตรการดูแลผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการชุดที่ 1 คาดหวังช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า วงเงินรวมทุกมาตรการอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท หาก ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบ จะนำเสนอ ครม. ชุดใหญ่วันที่ 10 มี.ค. 63  โดยแบ่งองค์ประกอบของมาตรการชุดที่ 1 เป็นดังนี้

   (1) ให้เงินผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเกษตรกรรายละ 1,000-2,000 บาท จำนวน 14 ล้านคน ใช้วงเงินรวม 1.4-2.8 หมื่นล้านบาท

   (2)  ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แบ่งเป็น 2 ส่วน (2.1) ธนาคารออมสินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยต่อให้ภาคครัวเรือนและธุรกิจ (2.2) ให้ ธปท. ผ่อนมาตรฐานบัญชีบางอย่างแก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อเอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อและปรับโครงสร้างหนี้

   (3) ดูแลแรงงานไม่ให้ถูกเลิกจ้าง โดยให้นำรายจ่ายค่าแรงมาหักลดหย่อนภาษีได้มากกว่า 1 เท่า และลดค่าธรรมเนียมที่ภาครัฐเรียกจัดเก็บเป็นการชั่วคราว เช่น ค่าเช่าที่ราชพัสดุ

   (4) มาตรการดูแลตลาดทุน จะผ่อนคลายเกณฑ์กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) โดยการขยายวงเงินสูงสุดจาก 200,000 บาท ไปใกล้เคียงกับ LTF เดิมคือ 500,000 บาท

   (5) มาตรการทางภาษี สำหรับมาตรการชุดที่ 1 อาจพิจารณาลดวงเงินหักภาษี ณ ที่จ่าย และยืดเวลาการจ่ายภาษีนิติบุคคลเหมือนที่ยืดให้บุคคลธรรมดา แต่ยังไม่มีการลดอัตราภาษี

   ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 4 และการเพิ่มสวัสดิการคนจนจะพิจารณาในช่วงเดือน เม.ย. 63

   มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลงทุนจะออกไล่เลี่ยกันใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

   ในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลงทุนจากฝั่งพรรคภูมิใจไทย เราคาดว่าจะเข้มข้นไม่แพ้กัน โดยในส่วนของการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว ก่อนหน้ากระทรวงการคลังได้ออกมาตรการทางภาษีช่วยไปแล้ว ทั้งการลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน การให้นำค่าปรับปรุงโรงแรมมาลดหย่อนได้ 1.5 เท่า และการให้ประชาชนยืดเวลาจ่ายภาษีบุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือน ถึง มิ.ย. 63

   แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังไม่ออกมาตรการกระตุ้นฝั่งอุปสงค์ที่จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศฟื้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นไปได้ที่จะเร่งออกมาตรการเพื่อให้สอดรับกับกระทรวงการคลังในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

   ส่วนมาตรการกระตุ้นการลงทุน กระทรวงคมนาคมจะนำโครงการ PPP ให้ ครม. อนุมัติกว่า 41 โครงการ มูลค่าการลงทุน 7.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 4.5% ของ GDP ซึ่งจะทำให้ยอดการลงทุนภาครัฐและเอกชนทั้งปีนี้ มีโอกาสเร่งตัวจากปีก่อนที่โตต่ำเพียง 2.2% YoY    

   เราคาดว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็น Series หลังจากนี้ โดยถ้าชุดแรกไม่ได้ผล ยังเหลือชุดที่ 2-3 ที่คาดว่าจะมีการลดภาษีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตามที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้ ส่วนผลกระทบต่อมาตรการชุดที่ 1 เบื้องต้นเราประเมินเป็นบวกต่อ SET INDEX จากสภาพคล่องในระบบที่เพิ่มขึ้นและจะได้เม็ดเงินลงทุนในหุ้นผ่าน SSF ที่ปรับโฉมให้ใกล้เคียง LTF โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทันที คือ

   (1) ค้าปลีก (CPALL/ BJC/ MAKRO/ CRC/ HMPRO) โดยเฉพาะ CPALL ที่ครั้งก่อนไม่ได้ประโยชน์จากชิมช้อปใช้ แต่ครั้งนี้จะได้ประโยชน์มากที่สุด จากผลของโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนเลือกนำเงินที่ได้ไปซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อมากกว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

   (2) กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (STEC/ CK/ TASCO/ TEAMG)

   (3) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT/ MINT/ ERW) แนะนำ “สะสม” CPALL(ราคาเหมาะสม 81.00 บาท) STEC(ราคาเหมาะสม 24.80 บาท) TASCO(ราคาเหมาะสม 27.00 บาท)  ERW(ราคาเหมาะสม 5.00 บาท)  

  

เรียบเรียง  สุรเมธี มณีสุโข
อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน  

CR:https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=aXBOYzlhc3grMzA9

คนเล่นหุ้น