ทำไม ? ต้องรู้จัก 'ค่าระวางเรือ'

ทำไม ? ต้องรู้จัก 'ค่าระวางเรือ'

ดัชนีค่าระวางเรือ หรือ BDI คือดัชนีที่สะท้อนภาวะระหว่างอุปทานของเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง กับ อุปสงค์ความต้องการใช้เรือ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ซึ่งตัวเลขนี้จะทำให้เราสามารถตีความถึงปริมาณกิจกรรมการค้าขายระหว่างประเทศ และ แนวโน้มของเศรษฐกิจโลกได้เช่นกัน BDI จึงถือเป็นอีก 1 ดัชนีชี้นำสำคัญของเศรษฐกิจโลก (Leading indicator)

.

ดัชนีค่าระวางเรือเทกอง BDI ประกอบไปด้วยค่าเฉลี่ยของค่าระวางเรือประเภทต่างๆ ผสมกัน ได้แก่

Capesize (BCI): ส่วนใหญ่จะบรรทุกสินค้าหนักในปริมาณมากๆ เช่น ถ่านหิน สินแร่เหล็ก และผลิตภัณฑ์จากเหล็ก ถือว่าเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 ประเภทนี้

Panamax (BPI): มีขนาดรองลงมา ส่วนใหญ่จะเอาไว้บรรทุกธัญพืช สินแร่เหล็ก ถ่านหิน

Supramax (BSI): มีขนาดรองลงมาอีกระดับ โดยส่วนใหญ่จะบรรทุก ธัญพืช สินแร่เหล็ก ถ่านหิน แต่เรือขนาดนี้สามารถล่องเข้าไปในทะเล หรือ แม่น้ำที่ไม่ลึกได้

โดยสัดส่วนการสร้าง BDI คือ BCI : BPI : BSI เท่ากับ 40:30:30

.

ดัชนีค่าระวางเรือ ส่งผลต่อหุ้นใดบ้าง ?

ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ซึ่งจะมีผลกับการคาดการณ์กำไรของหุ้น PSL และ TTA

ดัชนีค่าระวางเรือ CCFI และ SCFI จะมีผลต่อการคาดการณ์กำไรของหุ้น RCL เพราะว่าประเทศจีนถือว่ามีความสำคัญต่อการขนส่งของโลกอย่างมาก จากการเป็นประเทศนำเข้า-ส่งออกสินค้ามากที่สุดในโลก

ขณะที่กลุ่มเรือขนของเหลว ก็จะมีราคาค่าระวางแยกไปตามชนิดสินค้า ขนาดเรือ เส้นทางเดินเรือ ซึ่งจะซับซ้อนไปอีกขั้นหนึ่ง

ตลาดหุ้นไทยมีบริษัทรับจ้างเดินเรืออยู่หลายบริษัทที่อิงกับหลายดัชนี และ หลายผลิตภัณฑ์ เช่น

- Dry cargo : PSL, TTA และ BIOTEC

- Tanker : PRM, AMA และ VL

- Container : RCL

- Passenger : RP