ห้องเม่าปีกเหล็ก

“เกมวัดใจ”

โดย ก กา
เผยแพร่ :
88 views

Macro Strategy : Chicken Game “เกมวัดใจ”

ทรัมป์ใช้กลยุทธ์เกมวัดใจกับมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าที่ได้แรงบันดาลใจจากแมคคินลีย์ โดยเริ่มจากการเล่นใหญ่เรื่องภาษีเพื่อขู่ฝ่ายตรงข้ามให้เข้าเจรจาการค้า

 

 

KEY EVENT

เราได้จัดงานสัมมนา KS Expert Series ในหัวข้อ “Trade War Shock” โดยมีศาสตราจารย์ ดร. สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง เป็นวิทยากรหลัก

 

ภาษีนำเข้าทรัมป์ได้รับแรงบันดาลใจจากแมคคินลีย์

หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศอิสรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมทั้งประกาศการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ โดย ดร. สมชาย มองว่านโยบายของทรัมป์ได้รับแรงบันดาลใจจากวิลเลียม แมคคินลีย์ ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากสินค้านำเข้าราคาถูก แมคคินลีย์สนับสนุนการเก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ยสูงถึง 46% ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นและกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะประชาชนในชนชั้นแรงงาน ซึ่งนโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องกับมาตรการของทรัมป์

 

ทรัมป์กำลังเล่นเกมวัดใจ

ดร. สมชาย ให้ความเห็นว่าเพื่อที่จะหาแหล่งเงินมาสนับสนุน มาตรการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทรัมป์จึงใช้การขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือสนับสนุนนโยบายของตนเอง โดยเพื่อให้สามารถลดภาษีได้ตามที่ประกาศไว้ ทรัมป์จำเป็นต้องได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการเจรจาการค้า

ดังนั้นเขาจึงใช้กลยุทธ์จากทฤษฎีเกม คือ “เกมวัดใจ” (Chicken Game) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เริ่มต้นด้วยข้อเรียกร้องพร้อมการขู่ในระดับสูงสุดเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายตรงข้าม แนวทางนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันอีกฝ่ายให้เข้าสู่โต๊ะเจรจา และทำให้สหรัฐฯ อยู่ในสถานะที่เหนือกว่าในการเจรจาต่อรอง และสามารถกำหนดเงื่อนไขที่ได้เปรียบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในระยะข้างหน้าหากการเจรจาประสบความสำเร็จ เชื่อได้ว่าภาษีนำเข้าใหม่ก็จะมีแนวโน้มที่จะยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าก่อนเกิดสงครามการค้า

 

ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากสงครามการค้าและภาษี

ดร. สมชาย แนะนำว่าไทยไม่ควรรวมกลุ่มกับประเทศในภูมิภาคเพื่อเจรจากับสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ชอบการเจรจาแบบทวิภาคี หากไทยรวมกลุ่ม อาจเป็นผลเสีย โดยทรัมป์อาจตอบโต้ด้วยการเพิ่มแรงกดดัน หรือปฏิเสธการเจรจา ซึ่งต่างจากกรณีของยุโรปที่มีกฎหมายและโครงสร้างบังคับให้มีการเจรจาแบบสหภาพเหนือชาติ

 

โดย ดร. สมชาย สรุปผลกระทบหลักจากมาตรการภาษีใหม่ 3 ด้านคือ

1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว

2) เศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่ำเพียงราว 1%

3) เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

มุมมอง KS :เราปรับเป้าดัชนีสำหรับปี 2025 ลงเหลือ 1,145 จุด

เราเห็นด้วยกับการประเมินของดร.สมชายว่า ทรัมป์กำลังเล่น “เกมวัดใจ” โดยเริ่มจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อสร้างความกลัวและบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ ได้เงื่อนไขการค้าที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษีนำเข้าสุดท้ายแล้วน่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้การเจรจาจะสำเร็จ แต่ภาษีนำเข้าใหม่ภายหลังข้อตกลงจากการเจรจาน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าก่อนเกิดสงครามการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การชะลอตัวของการค้าและเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เราคาดว่าการส่งออกของไทยอาจหดตัว -0.5% ฉุดการเติบโตของ GDP เหลือ 1.4% และนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าที่เคยประเมินไว้เดิมในปีนี้ลงมาอยู่ที่ +/-1.50% เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดจะลดลงเหลือ 88 บาท และบนสมมติฐาน PE ที่ระดับ 13 เท่า (-1SD) เป้าดัชนี SET ใหม่ของเราสำหรับปีจะลดลงเหลือที่ระดับ 1,145 จุด แต่หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ค่า PE อาจลดลงเหลือ 11.5 เท่า (-1.5SD) ซึ่งจะทำให้ดัชนี SET มีโอกาสปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 960 จุด

 


ก กา