BCP Upside เพิ่มเติมจากการควบรวมกิจการ
การควบรวมกิจการระหว่าง BCP-ESSO ได้รับการอนุมัติแบบมีเงื่อนไข BCP รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (TCCT) ได้อนุญาตให้บริษัทและ ESSO ควบรวมกิจการกันแล้ว โดยมีกรอบเวลาและเงื่อนไขเฉพาะ ได้แก่
1) BCP จะไม่อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเป็นเวลา 5 ปี
2) BCP จะไม่จัดหาน้ำมันดิบจากซัพพลายเออร์รายเดียวเกิน 50% ของทั้งหมดเป็นเวลา 5 ปี
3) BCP จะคงข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับลูกค้าขายส่งของ ESSO จนกว่าสัญญาเดิมจะหมดอายุ
4) BCP จะคงไว้ซึ่งเงื่อนไขการเป็นผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันของ ESSO จนกว่าสัญญาเดิมจะสิ้นสุดลง
5) BCP จะดำเนินการจัดทำแผนระยะเวลา 5 ปี เพื่อปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและพัฒนาพลังงานสีเขียว โดยมีการจัดสนนงบประมาณไว้
6) BCP จะดำเนินการทำแผน 5 ปี เพื่อจัดสรรผลประโยชน์บางส่วนจากการควบรวมกิจการครั้งนี้เพื่อตอบแทนสังคมและผู้บริโภค
ซึ่งหาก BCP เห็นด้วยกับเงื่อนไขเหล่านี้ บริษัทฯ สามารถดำเนินการควบรวมกิจการในขั้นต่อไปได้เลย หากไม่เป็นเช่นนั้น BCP สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ TCCT ได้
มุมมองของเรา
มุมมองเชิงบวกต่อดีล การอนุมัติดังกล่าวเป็นเงื่อนไขบังคับก่อน (CP) สุดท้ายสำหรับการควบรวมกิจการระหว่าง BCP-ESSO ดังนั้น ความน่าจะเป็นของความสำเร็จของดีลนี้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก เรามองว่าบริษัทฯ จะสามารถดำเนินการตามกรอบเวลาและเงื่อนไขที่ TCCT กำหนดได้ แม้ว่าอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกิดขึ้นบ้างก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าการผนึกกำลังจากการควบรวมกิจการครั้งนี้จะสูงกว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว
ขั้นตอนต่อไป-รอดูงบการเงินไตรมาส 2/2566 ขั้นตอนต่อไปคือการเจรจาราคาซื้อสุดท้าย ซึ่งจะคำนวณโดยใช้ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ดังนั้น เราคาดว่ากระบวนการสุดท้ายจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางเดือน ส.ค. โดยจะทำให้ดีลนี้มีโอกาสแล้วเสร็จภายในสิ้นไตรมาส 3/2566 ซึ่งหากอิงจากการประมาณการคร่าวๆ เราเชื่อว่าช่วงราคาเสนอซื้อหุ้น ESSO จะอยู่ในกรอบ 9.00-9.90 บาท/หุ้น
ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ด้วย TP ที่ 39.20 บาท จาก upside ต่อ TP ที่จำกัด แต่โดยพื้นฐานแล้วเรายังชอบ BCP ตามการผนึกกำลังที่อาจเกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการ
