โดย ศักดิ์
เผยแพร่ : 
65 viewsทิศทาง และแนวโน้มของตลาดหุ้นไทย :
1) ขาลงเพราะนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ :
1.1) 915 จุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี พ.ศ 2550
1.2) 380 จุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551 ( 1 ปี )
1.3) นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ -162,246 ล้าน บาท และทําให้หุ้นไทยปรับตัวลดลง ( 915 - 380 ) = -535 จุด ( หรือ -58.47% )
1.4) สาเหตุเนื่องมาจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
2) ขาขึ้นเพราะนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ :
2.1) 380 จุด เมื่ิอวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551
2.2 1,649 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2556 ( 5 ปี )
2.3) นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ +191,222 ล้าน บาท และทําให้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,649 - 380 ) = +1,269 จุด ( หรือ +333.95% )
2.4) สาเหตุเนื่องมาจากการทํา QE ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
3) ตลาด SideWay เพราะนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ :
3.1) 1,649 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2556
3.2) 1,563 จุด เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 ( 6 ปี )
3.3) นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ -620,127 ล้าน บาท และทําให้หุ้นไทยปรับตัวลดลง ( 1,649 - 1,563 ) = -86 จุด ( หรือ -5.22% )
3.4) สาเหตุเนื่องมาจากการยุติการทํา QE ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเริ่มปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate ครั้งแรกในรอบ 9 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2558
4) คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ตั้งแต่ 1,563 จุด เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 เพราะนักลงทุนต่างชาติน่าจะเข้าซื้อหุ้นไทยได้ถึง +620,127 ล้าน บาท ( เท่ากับที่ขายออกไป ) และน่าจะผลักดันตลาดหุ้นไทยให้เป็นขาขึ้นรอบใหญ่ไปจนถึง 5,000 จุด ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป
5) การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ เป็นข้อมูลที่คล้องจองกับค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ 2556 โดยมายืนอยู่ที่ 30.6800 บาท ต่อ USD เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ที่ผ่านมา อนึ่ง ค่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบก่อนหน้านี้คือที่ 28.584 บาท ต่อ USD เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี พ.ศ 2556
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.set.or.th )
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
