เปิดโผ Top 5 หุ้น DCA ที่เหมาะลงทุนประจำเดือนมี.ค.
บทความครั้งนี้ Wealthy Thai ได้มีเรื่องราวดีๆ มาฝากนักลงทุนอีกเช่นเคย โดยได้รวบรวม TOP 5 หุ้น ที่เหมาะกับนักลงทุนสาย DCA ซึ่งมีการประเมินของนักวิเคราะห์ว่า เหมาะกับการลงทุนในเดือนมี.ค.65 และในแต่ละหุ้นก็ยังมีพื้นฐานที่น่าสนใจอีกด้วย เพราะมีคาดการณ์ถึงผลประกอบการที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต
สำหรับ 5 หุ้นที่นักวิเคราะห์บอกว่าเหมาะแก่การ DCA ประกอบด้วย MAKRO, ADVANC, KBANK, PTG และRATCH โดยมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาประเมิน 5 หุ้นที่เหมาะกับ DCA ว่า การลงทุนแบบ Dollar Cost Average หรือ DCA คือ การลงทุนระยะยาว ด้วยการทยอยลงทุนเป็นงวดๆ ในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน ทุกงวด โดยไม่สนใจราคาหุ้นว่าจะผันผวนขึ้น หรือลงมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้การลงทุนด้วยวิธี้นี้ จะทำให้นักลงทุนสามารถกำจัดอารมณ์ที่ใช้ในการลงทุน เมื่อราคาหุ้นแกว่งตัวผันผวน และยังเป็นการสร้างวินัยการออมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่อาจจะไม่มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างใกล้ชิดมาก
ขณะที่ Set trade DCA Order ฟังก์ชั่นส่งคำสั่งทยอยซื้อหุ้นอัตโนมัติบน Streaming ตามระยะเวลาที่ต้องการวงเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 2,000 บาท โดยเลือกหุ้นจากดัชนี SET100 ขณะที่ความถี่ในการออม เลือกได้เป็นรายเดือน (เลือกซื้อทุกวันที่ 1, 5, 15, 25) หรือรายสัปดาห์ (เลือกซื้อเป็นวันจันทร์, อังคาร,พุธ, พฤหัสบดี, ศุกร์) ส่วนช่วงระยะเวลาที่ต้องการออม เลือกได้เป็นรายเดือน (ทุก 3, 6, 9, 12 เดือน) หรือรายสัปดาห์ (ทุก 4, 8, 12, 16 สัปดาห์)
สำหรับ Top 5 DCA by Yuanta มีการเลือกหุ้น 5 บริษัท พื้นฐานดี มีสภาพคล่อง, ให้คำแนะนำทุก 1 เดือน ยกเว้น มีเหตุการณ์สำคัญกระทบต่อพื้นฐานบริษัท, กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม, เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น, จัดพอร์ตผสมผสาน (Dividend + Growth) และกระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากันในแต่ละหุ้น
เปิดโผ Top 5 หุ้น DCA
MAKRO คาดผลประกอบการปี 66 ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท โต 15.8% จากปีก่อนยอดขายไตรมาส 1/66 โตต่อเนื่องจากโครงการช้อปดีมีคืนและการกลับมาของนักทองเที่ยว ภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงในครึ่งหลังปี 66
ADVANC เป็นหุ้น Defensive จ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4% ต่อปี ประมาณการกำไรมี Upside จากการต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจการเงิน คือ Virtual Bank
KBANK คาดผลประกอบการปี 66 ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 34.7% จากปีก่อน แนวโน้มการตั้งสำรองคาดลดลงจากปีก่อน Catalyst บวก คือ การขายสัดส่วนเงินลงทุน ใน KASSET หากเกิดขึ้นจะหนุนให้บริษัทมีกำไรพิเศษ
PTG คาดกำไรปกติไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 150-200 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของค่าการตลาด, ธุรกิจ LPG , ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ Palm Complex ส่วนระยะกลางมีประเด็นเก็งกำไร การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะชุมชน การนำธุรกิจ Palm Complex และ LPG เข้าตลาด
สุดท้าย RATCH เป็นหุ้น Defensive ทนความผันผวนได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น แนวโน้มปี 66 โตเด่นจากการรับรู้โรงไฟฟ้า ใหม่เข้ามาในพอร์ต