เตรียมพร้อมรับเศรษฐกิจถดถอย
.

.
กับตัวเรา
1. ตั้งสติ ไม่ต้องตีโพยตีพาย และทำความเข้าใจก่อนว่า recession มันเกิดขึ้นได้และกระทบกับทุกคนเพียงแต่ไม่เท่ากัน ซึ่งก็แล้วแต่การเตรียมตัวพร้อมรับมือของเรา ไม่ใช่โชคชะตา
.
2. ทำความเข้าใจว่า recession จะเกิด 2 สิ่งคู่กัน คือการลดลงชั่วคราวของ demand เพราะคนต้องประหยัดแต่มันจะกลับมาเมื่อหลายๆ อย่างเริ่มดีขึ้น และนั่นจะเป็นช่วงเวลากวาดล้างคู่แข่งที่ไม่มีพื้นฐานที่แข็งแรง ขายได้แบบฉาบฉวย
.
3. ปรับโหมดการทำงาน เป็นแบบ war time ระวังภัยทุกด้าน ควบคู่กับมองหาโอกาสและหนทางรอด หลายเรื่องที่เคยลังเลต้องตัดสินใจให้ไว ทิ้งสิ่งไม่จำเป็น ยึดมั่นกับจุดสำคัญไว้ก่อน เพราะ war time ไม่ใช่ช่วงเวลามา fancy อะไรมาก
.
.
กับธุรกิจ
.
1. ถึงเวลาหาข้อสรุป ว่าจุดชายพิเศษของตัวเองคืออะไรเพราะมันจะเป็นตัวพาเรารอดในยามยากเสมอ บางธุรกิจมีสินค้าเป็นจุดแข็ง หลายธุรกิจมีระบบการทำงานเป็นจุดแข็ง ขณะที่อีกหลายธุรกิจตัวเจ้าของเองกลับเป็นจุดแข็งที่ดีที่สุด แล้วของเราคืออะไร
หาคำตอบที่แท้จริงว่าอะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วโฟกัสกับเรื่องนั้น
.
2. จัดการกับเงินสดให้กลับเข้ามาในบัญชีให้เร็วที่สุด เงินของเราจำนวนไม่น้อยจะถูกซ่อนรูปเป็นสต็อกหลังบ้าน สต็อกฝากขาย สต็อกวัตถุดิบ/Packaging และหนี้ค้างรับ ถ้าไม่รีบจัดการ มันจะกลายเป็นศูนย์ตอนนี้ล่ะ
ธุรกิจที่มี OD แต่ไม่ค่อยใช้ ให้เบิกเงิน OD มานอนกอดไว้ยอมเสียดอกเบี้ยสักปี ยังอุ่นใจกว่าโดนแบลค์ปิดวงเงินแล้วขอใหม่ไม่ได้ เพราะวง OD เป็นของธนาคาร จะเรียกคืนเมื่อไหร่ก็ได้ เข้าใจตรงนี้ให้ดี
.
3. ใครคิดจะขาย อยากจะเลิก แต่งตัวให้พร้อมขายในขณะที่ธุรกิจยังพอมีมูลค่า ถ้ารอไปเรื่อยๆ มูลค่าอาจจะจะลดลงตามเวลา ตอนนี้คนมีเงินกำลังเริ่มมองหาของดีราคาถูกและมันอาจเป็นโอกาสเดียวของเราที่จะ exit พร้อมกับเงินเพื่อไปเริ่มต้นใหม่
.
.
เรื่องลูกค้า
.
1. ใครคือลูกค้าเกรด A – B – C – D รักเราอย่างแท้จริงหรือเห็นเราเป็นแค่ทางผ่าน ลูกค้า A – B คือคนที่พาเรารอดจากทุกวิกฤต รักษาไว้ให้ได้ Offer พิเศษใดๆให้มอบกับลูกค้ากลุ่มนี้ก่อนเสมอ
.
2. ให้ลูกค้า A- B ช่วยพาลูกค้าใหม่มาให้เรา เพราะง่ายกว่าเราไปหาเอง ลองชวนลูกค้า A-B ทำ affiliates program ชวนคนมาซื้อ จะ win-win ทุกฝ่าย
.
3. การไม่จัดการ segment ลูกค้า จะทำให้เราเสียลูกค้า A-B ได้ง่ายๆ อย่าพลาดจุดนี้
.
.
เรื่องเงินกับผลประกอบการ
1. ปรับเป้าหมายธุรกิจ นี่อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาทำกำไรสูงสุด แต่ควรจะเป็นช่วงเพิ่มสภาพคล่องให้สูงสุด (กำไรยังเอา แต่ไม่ต้องสูงสุด เอาเงินสดก่อน)
.
2. ประเมินความพร้อม เรามีแรงยืนได้กี่เดือน ตัวเลขกำไรสวยๆ แต่ไม่มีเงินในบัญชีเป็นภาพมายานะ
.
3. เร่งจัดการกับสต็อก บางอย่างกำไรน้อยหรือขาดทุนบ้างก็ต้องทำเพื่อลดภาระ
.
4. เป็นช่วงที่เหมาะมากสำหรับการปรับโครงสร้างทางการเงิน คนที่เล่นกับเงินและดอกเบี้ยเป็น ช่วงนี้จะได้เปรียบ เดินไปคุยกับธนาคารให้รวมหนี้เพื่อลดดอกเบี้ย แค่นี้ก็กำไรเพิ่มแล้ว
.
.
Recession ครั้งนี้ก็คงเหมือนกับทุกครั้งคือมีลงแล้งก็ต้องมีขึ้น เพียงแต่ครั้งนี้อาจจะนานและหนักกว่าทุกครั้ง แต่ต้องไม่ลืมว่าทุกวิกฤติจะมีคนรอดและไม่รอดเสมอ ความแตกต่างเดียวของคน 2 ประเภทนี้คือ ผู้ที่คิดและลงมือทำอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ยึดติดกับวิธีการทำงานเดิม กล้าเปิดรับวิธีการใหม่ๆ และไม่ประมาทกับการแข่งขัน
.
.
จากหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 3
ที่มาเนื้อหาจาก.. Facebook Trick of the Trade