กระแสดิสรัปชั่นที่ผู้คนเดินห้างน้อยลง แต่หันไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น กระหน่ำด้วยวิกฤติโควิด-19 กระแทกซ้ำไปยังธุรกิจค้าปลีกให้ชอกช้ำอย่างทั่วถึงทั้งในและต่างประเทศ
ฝั่งอเมริกา ห้างเก่าเเก่ที่มีอายุกว่า 162 ปีอย่าง Macy’s และค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Kohl’s ต่างต้องสั่งปลดพนักงานกว่า 3,900 ตำเเหน่ง ฟากอังกฤษ ทั้ง Boots และ John Lewis สองผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ก็ประกาศปลดพนักงานรวมกันกว่า 5,300 คน ไม่เว้นแม้แต่ Marks & Spencer ห้างสัญลักษณ์ของประเทศที่มีอายุถึง 136 ปี ก็เตรียมปลดพนักงานราว 950 ตำแหน่ง
ด้านประเทศไทย ล่าสุด ห้างสรรพสินค้าโตคิว ธุรกิจค้าปลีกจากญี่ปุ่น ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1985 ก็เพิ่งประกาศจะปิดตัวและถอนการลงทุนจากประเทศไทย ในเดือนมกราคม ปี 2021 ก่อนหน้านั้น เดอะมอลล์กรุ๊ป ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ ก็ประกาศดาวน์ไซส์องค์กร เปิดให้ผู้บริหารระดับสูงสมัครใจลาออกและบางคนถูกให้ออก
อีกแห่งที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ก็คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัส ที่บริษัทแม่ในอังกฤษต้องประกาศขายกิจการในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยมีเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ประมูลซื้อกลับคืนมาได้ เพราะไม่อยากให้กิจการที่เคยลงทุนลงแรงไว้แต่อ้อนแต่ออก ต้องล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา จะพาพนักงานอีกกว่า 30,000 คนต้องเคว้งว้างไร้งานทำ แถมไปเพิ่มจำนวนคนว่างงานให้ประเทศที่คาดว่า ในปีนี้จะมีคนว่างงานถึง 3 ล้านคน บวกกับนักศึกษาจบใหม่อีก 4.5 แสนคน ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศ
หรือจะปล่อยให้ยักษ์ใหญ่จากนอกประเทศมาฮุบกิจการไปไว้ในครอบครอง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีเมตตาต่อพนักงานและคู่ค้าไทยในห่วงโซ่อุปทานสักแค่ไหน เพราะซีพีตั้งใจไว้ว่า จะให้เทสโก้ โลตัสเป็นช่องทางทำปล่อยของของ SMEs และรายเล็ก ให้สินค้าไทยมีโอกาสไปเติบโตในต่างประเทศบ้าง
แต่การซื้อกิจการเทสโก้ โลตัสกลับมาไม่ได้ราบรื่น ยังติดปัญหาการควบรวมกิจการ โดยเฉพาะประเด็นที่กลัวกันว่าจะเป็นการผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด จึงต้องร้อนถึงคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) มาพิจารณา ซึ่งเพิ่งมีมติต่อเวลาการพิจารณาออกไปอีก 15 วัน จะครบกำหนดกลางเดือนพ.ย.นี้
อันที่จริง ประเด็นที่น่าจะตัดออกได้เลยควรจะเป็นเรื่องการผูกขาดตลาด เพราะปัจจุบันมีการแบ่งตลาดกันอย่างชัดเจนแล้ว และทุกตลาดต่างมีคู่แข่งหลายราย อย่างคอนวีเนียนสโตร์ ก็มีทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น, แฟมิลีมาร์ท, ลอว์สัน, เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ส่วนกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตก็มีเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต
ปัญหาจริง ๆ จึงไม่น่าจะอยู่ที่เรื่องของการผูกขาด แต่อยู่ที่ความหวาดกลัว ความระแวงซะมากกว่า กลัวไปก่อนว่าธุรกิจรายใหญ่จะเกเร จึงต้องมีการเตะตัดขากันสักนิด แต่หากมองกันให้ลึกซึ้งลงไป จะพบว่าการเลี้ยงม้าลายอย่างเดียวไม่พอ ต้องเลี้ยงเสือเอาไว้ด้วย เพราะถ้ามีสิงโตเข้ามาทำร้ายม้าลาย เราจะได้ปล่อยเสือไปสู้กับสิงห์
ในโลกของการแข่งขัน การมีธุรกิจรายใหญ่ในประเทศย่อมเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะรายใหญ่จะเป็นบลัฟเฟอร์หรือกันชนให้กับรายย่อย หากมีธุรกิจรายใหญ่จากต่างประเทศกระโจนเข้ามา รายเล็กในประเทศไม่มีวันสู้ได้ ต้องมีรายใหญ่ไว้ป้องกัน เหมือนกันหากวันนี้ ธุรกิจออนไลน์รายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดไทย คิดว่าธุรกิจค้าปลีกรายเล็กของไทยจะสู้ได้หรือ สิงห์ก็ต้องสู้กับเสือถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ไม่ใส่ปล่อยให้ม้าลายไปสู้ มีแต่ตายเปล่าอย่างเดียว
วันนี้เราจึงต้องวางความหวาดระแวงหรือกลัวองค์กรใหญ่ แต่เราต้องรู้จักใช้องค์กรใหญ่ให้เป็นประโยชน์ เอาไว้ไปพุ่งชนกับยักษ์ใหญ่จากนอกประเทศ ดังนั้น เพื่อความสบายใจในแง่มุมของการมีอำนาจเหนือตลาด ผู้มีอำนาจในการพิจารณาก็สามารถกำหนดเงื่อนไข เพื่อไม่ให้รายใหญ่มีกลไกในการสร้างการค้าที่ไม่เป็นธรรมได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ดีลล้มพับไป เพราะวันนี้การรักษาธุรกิจในประเทศให้อยู่รอด เป็นการรักษาฐานการจ้างงานและห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของชาติอย่างมาก
มาพิจารณา ซึ่งเพิ่งมีมติต่อเวลาการพิจารณาออกไปอีก 15 วัน จะครบกำหนดกลางเดือนพ.ย.นี้
อันที่จริง ประเด็นที่น่าจะตัดออกได้เลยควรจะเป็นเรื่องการผูกขาดตลาด เพราะปัจจุบันมีการแบ่งตลาดกันอย่างชัดเจนแล้ว และทุกตลาดต่างมีคู่แข่งหลายราย อย่างคอนวีเนียนสโตร์ ก็มีทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น, แฟมิลีมาร์ท, ลอว์สัน, เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ส่วนกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตก็มีเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต
ปัญหาจริง ๆ จึงไม่น่าจะอยู่ที่เรื่องของการผูกขาด แต่อยู่ที่ความหวาดกลัว ความระแวงซะมากกว่า กลัวไปก่อนว่าธุรกิจรายใหญ่จะเกเร จึงต้องมีการเตะตัดขากันสักนิด แต่หากมองกันให้ลึกซึ้งลงไป จะพบว่าการเลี้ยงม้าลายอย่างเดียวไม่พอ ต้องเลี้ยงเสือเอาไว้ด้วย เพราะถ้ามีสิงโตเข้ามาทำร้ายม้าลาย เราจะได้ปล่อยเสือไปสู้กับสิงห์
ในโลกของการแข่งขัน การมีธุรกิจรายใหญ่ในประเทศย่อมเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะรายใหญ่จะเป็นบลัฟเฟอร์หรือกันชนให้กับรายย่อย หากมีธุรกิจรายใหญ่จากต่างประเทศกระโจนเข้ามา รายเล็กในประเทศไม่มีวันสู้ได้ ต้องมีรายใหญ่ไว้ป้องกัน เหมือนกันหากวันนี้ ธุรกิจออนไลน์รายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดไทย คิดว่าธุรกิจค้าปลีกรายเล็กของไทยจะสู้ได้หรือ สิงห์ก็ต้องสู้กับเสือถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ไม่ใส่ปล่อยให้ม้าลายไปสู้ มีแต่ตายเปล่าอย่างเดียว
วันนี้เราจึงต้องวางความหวาดระแวงหรือกลัวองค์กรใหญ่ แต่เราต้องรู้จักใช้องค์กรใหญ่ให้เป็นประโยชน์ เอาไว้ไปพุ่งชนกับยักษ์ใหญ่จากนอกประเทศ ดังนั้น เพื่อความสบายใจในแง่มุมของการมีอำนาจเหนือตลาด ผู้มีอำนาจในการพิจารณาก็สามารถกำหนดเงื่อนไข เพื่อไม่ให้รายใหญ่มีกลไกในการสร้างการค้าที่ไม่เป็นธรรมได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ดีลล้มพับไป เพราะวันนี้การรักษาธุรกิจในประเทศให้อยู่รอด เป็นการรักษาฐานการจ้างงานและห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของชาติอย่างมาก