มาอัพเดทตลาดภาคบ่ายกันครับ

3 พฤษภาคม 2562 -- Daily Strategy : บล.คันทรี่ กรุ๊ป

Daily View

เราคาด SET มีโอกาสย่อตัวลงในกรอบ 1670 - 1678 ปัจจัยกระทบการลงทุนวันนี้ค่อนข้างเป็นลบไม่ว่าจะจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ย่อตัวลง 122 จุด ยังคงถูกกดันต่อเนื่อง สำหรับความเห็นจากประธานเฟดที่ระบุว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ผ่านมาเป็นเพียงชั่ว คราวและเชื่อว่าเงินเฟ้อจะสามารถกลับมาสู่ระดับ 2% ทำให้ตลาดตีความว่าเฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้หรือเปล่า แต่อย่างไรก็ดีพอมาพิจารณาที่ความเห็นจาก Bloomberg Consensus ที่ทำการสำรวจความเห็นนักลงทุนพบว่าในวันที่ 28 เม.ย. (ก่อนการประชุมเฟด) นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสถึง 71% ที่เฟดจะทำการลดดอกเบี้ยในปีหน้าแต่ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุดเฟดวันที่ 1 พ.ค. นักลงทุนยังคงเชื่อว่ามีโอกาส 56% ที่เฟดจะทำการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ดังนั้นโอกาสในการลดดอกเบี้ยยังคงมีอยู่ นอกจากประเด็นข้างต้นแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา 10 Y Bond Yield US พลิกกลับขึ้นกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งแต่เรากลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะ ทำให้ความกังวล Inverted Yield Curve ลดลงในระยะถัดไปนอกจากนี้คาดดัชนีอาจเผชิญแรงกดดันอีกแรงจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ Brt ร่วงลงกว่า 2% ตามแรงกดดันของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วน ปัจจัยอื่นๆแนะติดตามตัวเลขการประกาศผลประกอบการของ IRPC Bloomberg คาด -245 ล้านบาทหากออกมาดีกว่าคาดเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อราคาหุ้นรวมถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในคืนนี้

Daily Strategy

เราแนะรอหาจังหวะเล่น Trading ที่แนวรับ 1673 โดยเน้นกลุ่มที่ยังมีปัจจัยบวก อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL ROBINS) และมองจุดทำกำไรบริเวณที่ 1678 สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ทยอยสะสมมาตลอดตามที่เราแนะนำก่อนหน้านี้อาจแนะพิจารณา แบ่งทำกำไรบางส่วนหลัง SET INDEX ได้ขึ้นมากว่า 2.7% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

CPALL (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 84 บาท) บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะยังคงดำเนินการขยายสาขาเพิ่มต่อปี 700 สาขาตามเดิมเพื่อให้ มีสาขาครบ 1.3 หมื่นสาขาภายในปี 2021 (ปัจจุบันมีราว 1.1 หมื่นสาขา) นอกจากการขยายสาขาเพิ่มแล้ว ยังมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเพื่อขยายช่องทางราย ได้ โดยในปีนี้ช่วง 2Q19 เราคาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเปิดสาขา ใหม่ใน กัมพูชา และ ลาว เบื้องต้นประเมินรายได้ในปี 19 ที่ 5.45 แสนล้านบาท (+7.3%YoY) และ กำไรสุทธิ ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท (+13%YoY) โดยยังไม่ได้รวมการ ลงทุนในต่างเข้าประเทศเข้าไป ซึ่งหากแผนการลงทุนต่างประเทศชัดเจนจะเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่ม Upside ให้กับประมาณการเราได้

COM7 (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 22.1 บาท) เริ่มต้นบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" โดยเรามองว่ายอดขายของบริษัทจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องตามการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้ามือถือ Andriod ในเขตเมืองรอง ภายใต้แบรนด์ KingKong และ BKK รวมถึงการทำแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ Banana Shopping โดยเราเชื่อว่าเป้าบริษัทที่ 847 สาขา ณ สิ้นปี 19 มีความเป็นไปได้สูงตามการขยายสาขา hypermarket อย่างรวดเร็วในเขตเมืองรอง โดยเราคาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 17% ในปี 19-21E

OISHI ประกาศกำไรสุทธิประจำงวด 2Q19 มีกำไรสุทธิที่ 398 ล้านบาท +62%YoY +21%QoQ และทำให้กำไรใน 1H19 คิดเป็น 69% ของประมาณการทั้งปีและอาจทำให้เราปรับประมาณการขึ้นซึ่งจะเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมายในอนาคต

Analyst : Sittidath Prasertrungruang

Registration No. 17618

Tel. +66 2205 7000 ext. 4400

Assistant Strategist : Vathan Jitsomnuk