นักวิเคราะห์เคาะหุ้นเด่นกลุ่มค้าปลีก CPALL MAKRO CRC ดักซื้อรับกำไร Q1/65

นักวิเคราะมองบวกหุ้นกลุ่มค้าปลีก ให้น้ำหนักลงทุน "มากกว่าตลาด" คาดผลงานไตรมาส 1/65 ออกมาดี หลังยอดขายต่อสาขาในเดือนกุมภาพันธ์เป็นบวกทุกบริษัท ยกเว้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ชูหุ้นเด่น CPALL MAKRO และ CRC

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/2565 ของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกทุกบริษัทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ยกเว้น GLOBAL และ DOHOME ซึ่งฐานกำไรสูงในช่วง ไตรมาส 1/2564 และอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) มีแนวโน้มจะลดลง ส่วนบริษัทอื่นๆ คาดว่ากำไรจะเติบโตจากทั้งยอดขายเพิ่มขึ้นตามยอดขายต่อสาขา (SSSG) ที่ฟื้นตัว การขยายสาขา และอัตรากำไรเพิ่มขึ้น

สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก เลือก CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 79 บาท เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ จากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคซึ่งส่งผลบวกต่อทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น อีเลฟเว่น) ธุรกิจค้าส่ง (MAKRO) และธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s)

บทวิเคราะห์บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ฯ ระบุว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยอดขายต่อสาขา (SSSG) ของกลุ่มค้าปลีกเป็นบวกทุกบริษัท ได้แก่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น บิ๊กซี และ แม็คโคร มี SSSG ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4/2564 เนื่องจากการคลายล็อกดาวน์และราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ ขณะที่ต้นทุนสินค้าและพลังงานที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งถูกส่งผ่าน (Pass through) ไปที่ผู้บริโภค โดย SSSG ของกลุ่มค้าปลีกที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยอดขายต่อสาขาของร้านเซเว่นฯ ฟื้นตัวชัดเจนที่สุดในกลุ่มค้าปลีก โดย SSSG เป็นบวก 10-11% เนื่องจากฐานต่ำในช่วงไตรมาส 1/2564 ซึ่งติดลบ 17.1% อีกทั้งการกลับมาเปิดร้านได้ตามปกติ การเปิดเทอม และการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่แม็คโครยังมี SSSG ดีต่อเนื่อง โดยเป็นบวก 4-6% บิ๊กซีมี SSSG ฟื้นจากติดลบ 21.6% ในไตรมาส 1/2564 เป็นบวก 3-4%

ขณะที่ SSSG กลุ่มค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน (Consumer discretionary) ได้แก่ โฮมโปร  โกลบอล และ ดูโฮม ชะลอลงจากไตรมาส 4/2564 จากฐานสูงในปีก่อนและราคาเหล็กชะลอลง อย่างไรก็ดี SSSG ของกลุ่มดังกล่าวยังคงเป็นบวกในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดีจากกรณีที่มีการทยอยปรับราคาขายสินค้าบางส่วน โดย SSSG ของดูโฮม ยังเป็นบวกมากที่สุดที่ 26-28% แต่ลดลงจาก 40.6% ในไตรมาส 4/2564 ขณะที่โกลบอลและโฮมโปรมี SSSG ลดลงเช่นกันเป็น 8- 9% และ 2-3% ตามลำดับ

สำหรับผลกระทบต้นทุนพลังงานและต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นถูกส่งผ่าน (Pass through)ได้ส่วนหนึ่งด้วยการปรับเพิ่มราคาสินค้า ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและกระจายสินค้าเพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น บล.เมย์แบงก์ฯ ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2565 ของร้านเซเว่นฯ MAKRO และ HMPRO เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และยอดขายฟื้นตัวขึ้นทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง แต่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นของ GLOBAL และ DOHOME ลดลงจากฐานสูงในปีก่อนและราคาเหล็กชะลอ

บล.ทิสโก้ ยังคงแนะนำ OVERWEIGHT หรือให้น้ำหนักการลงทุน" มากกว่าตลาด" สำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีก เลือก CRC และ MAKRO เป็นหุ้นเด่น หรือหุ้นกลุ่ม Top pick ของกลุ่มฯ จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรในปี 2565 นี้ หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลายลง ตลาดควรเห็นการปรับปรุงของการดำเนินงานหลัก ดังนั้นการปรับฐานราคาหุ้นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยคาดว่าผู้เล่นวัฏจักร เช่น CRC จะ outperform กลุ่ม และเป็น Top pick ส่วน MAKRO คาดเห็นการปรับปรุงที่สำคัญจากการดำเนินงานของ Lotus’s ในปีนี้ แนะนำให้ “ซื้อ” CRC โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 44 บาท และ MAKRO โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 52 บาท