JMART-JMTดิ่งพิษเพิ่มทุน โบรกฟันธงราคาหุ้นซึมยาว 3 เดือน
JMART กอดคอ JMT ราคาร่วงหนักกว่า 10% หลังประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนสูงถึง 30% ของจำนวนหุ้นปัจจุบัน บล.กสิกร คาด ราคาหุ้นไซด์เวย์ 3 เดือน ด้านบล.ยูโอบี แนะเลี่ยงเก็งกำไรทั้ง 2 บริษัท จนกว่าชัดเจนราคาขายหุ้นเพิ่มทุน
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)หรือ JMART และ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT วานนี้ (11 ก.ย.) ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดซื้อขายช่วงเช้า หลังจากทั้ง 2 บริษัทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน กดดันหุ้น โดยระหว่างวัน JMART ราคาลงต่ำสุด 13.20 บาท หรือ 14.47% ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 13.40 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 12.99% ส่วน JMT ลดลงต่ำสุดที่ 28.25 บาท ลดลง 12.40% ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 29.25 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 9.30%
ทั้งนี้ JMARTที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยออกหุ้นสามัญใหม่ 362.64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบ่งเป็นเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 271.98 ล้านหุ้น และอีก 90.66 ล้านหุ้น เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (PP)
ส่วน JMT เพิ่มทุนรวม 464.31 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 356.60 ล้านหุ้นเป็นการเพิ่มทุนแบบ General Mandate เพื่อเสนอขาย RO จำนวนไม่เกิน 267.45 ล้านหุ้น และขาย PP จำนวน 89.15 ล้านหุ้น ส่วนอีก แบ่งเป็น 107 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 3 (JMT-W3) ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือ หุ้นเดิมไม่คิดมูลค่า อัตรา 8.91509-11.14498 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยวอร์แรนท์, เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนท์ที่จัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานบริษัทหรือ บริษัทย่อย ครั้งที่ 1 (JMT-ESOP W1) และ รองรับการใช้สิทธิ JMT-W2
นายสุนทร กองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาหุ้นของ JMT และ JMART ปรับตัวลดลงแรง เนื่องจาก ที่ผ่านมาราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีการประกาศที่จะเพิ่มทุน จึงทำให้นักลงทุนจึงเทขายทำกำไรไปก่อน เพราะเมื่อบริษัทมีการเพิ่มทุนจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง (Price Dilution) ซึ่งในส่วนของ JMT คาดว่าจะมี Dilution ประมาณ 30% ทั้งจากการเพิ่มทุนทั้งการออกวอร์แรนท์และเพิ่มทุนแบบ General Mandate
ทั้งนี้แม้ Dilution ยังไม่เกิดตอนนี้แต่เป็นปัจจัยลบกดดัน ทำให้ราคาหุ้นปรับฐานลงมาและคาดว่าราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัท ในช่วง 3 เดือนจากนี้จะไซด์เวย์ จนกว่าการเพิ่มทุนดังกล่าวจะแล้วเสร็จ ซึ่งในส่วนของ JMT บริษัทยังคงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 39 บาท เพราะหากพิจารณาด้านพื้นฐานแล้ว ถือว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตที่ดี และเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มขึ้น โดยปีนี้มีแผนที่จะซื้อจำนวน 6 พันล้านบาท จากปกติที่ผ่านมาจะใช้เงินซื้อหนี้ปีละ 2-3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากที่บริษัทมีความชำนาญในการบริหารหนี้ และมีหนี้เข้ามาบริหารมากขึ้นก็จะทำให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาเป็นจังหวะในการทยอยซื้อ โดยประเมินรายได้ปีนี้ที่ 3,500 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน ส่วนปี 2564 ประเมินกำไรสุทธิที่ 1,330 ล้านบาท โตประมาณ 30% จากปีก่อน ส่วน JMART นั้นทางบล.กสิกรไทยไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น JMT และ JMART ปรับตัวลดลงแรง ประเด็นหลักจากการประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนที่สูงถึง 30-40% ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนกังวลราคาหุ้น และกำไรต่อหุ้นในอนาคตจะถูกไดรูท เพราะจำนวนหุ้นมากขึ้น และที่ผ่านมาราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 2-3 เท่าตัว (ตั้งแต่เดือนเม.ย.256ถึงก่อนที่จะประกาศเพิ่มทุน) จึงทำให้นักลงทุนขายทำกำไรไปก่อน
ทั้งนี้คาดว่าราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัท จากนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นยาก เพราะมีปัจจัยกดดันเรื่องการเพิ่มทุนอยู่และยังไม่มีความชัดเจนเรื่องราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นทั้ง 2 บริษัท แต่หากนักลงทุนจะเข้าเก็งกำไรนั้นจะต้องศึกษาข้อมูลในจากบทวิเคราะห์ให้มากก่อนตัดสินใจลงทุน
“ราคาหุ้น JMT และ JMART ร่วงแรงวานนี้ ปัจจัยหลักจากที่ทั้ง2 บริษัทประกาศเพิ่มทุน ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่คาดคิดมาก่อน ประกอบกับก่อนหน้านี้ราคาหุ้น 2 บริษัทดังกล่าวปรับตัวขึ้นแรง 2-3 เท่า ทำให้นักลงทุนขายล็อกกำไรไว้ก่อน”
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก