SIRI ควง SC

SIRI ควง SC I ออฟเรคคอร์ด

ใกล้วันเลือกตั้ง เข้ามาทุกทีทำให้ชาวหุ้นต้องลุ้นสุดตัวว่าจะเกิด “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” จนพา SET ทะยานขึ้นเหนือ 1,600 จุดได้ไหม เพราะถือว่าจุดแนวต้านที่แข็งแกร่งถ้าผ่านไปได้มีแรงบวกให้ไปได้ต่อ

๐๐๐ SIRI ควง SC 

   ใกล้วันเลือกตั้ง เข้ามาทุกทีทำให้ชาวหุ้นต้องลุ้นสุดตัวว่าจะเกิด “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” จนพา SET ทะยานขึ้นเหนือ 1,600 จุดได้ไหม เพราะถือว่าจุดแนวต้านที่แข็งแกร่งถ้าผ่านไปได้มีแรงบวกให้ไปได้ต่อ

แน่นอนว่าบรรดา หุ้นที่ได้รับอานิสงค์ หนีไม่พ้นหุ้นที่เกี่ยวข้องแต่ที่โดนแบบตรงๆ เกี่ยวกับทางการเมืองชัด ซึ่งนาทีนี้แรงขึ้นของหุ้น SIRI ชัดเจนเพราะพาราคาหุ้นแตะ 2.00 บาทได้อีกครั้ง แม้จะมีย่อปรับฐานก็ยังไม่เปลี่ยนภาพทางเทคนิค

ก็ไม่รู้ว่าชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” จะทำให้เกิดเซอร์ไพร์สในวันที่ 14 พ.ค. ได้แค่ไหนแต่จากราคาหุ้นมีสัญญาณระดับหนึ่งเอาเป็นว่ารอลุ้นได้ 

ส่วนที่ตามมาและราคาแซงหน้าแซงตาไปแล้ว SC ธุรกิจอสังหาฯ และ PR9 ธุรกิจโรงพยาบาล ของกลุ่ม “ชินวัตร” ที่ราคาหุ้นบวกรายวันตั้งแต่มีกระแส แลนด์สไลด์ เกิดขึ้น และยังกระหึ่มว่า “คนไกลจะได้กลับบ้าน” เข้ามาเสริมอีก 

เอาเป็นว่าการเมืองจะพลิกโพลหรือตรงตามคาด ชาวหุ้นเตรียมไหวตัว SET ขึ้นลง 100 จุด ให้เห็นได้ง่ายๆ ในช่วงนี้ 

๐๐๐

    ตลาดหุ้นไทยกลับมาไซด์เวย์ และแกว่งออกข้างแม้จะมีแรงซื้อต้นสัปดาห์แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1,570 จุดไปได้ ซึ่งปัจจัยที่กดดันแรงขายของต่างชาติที่สลับและขายตามความกังวลใจเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่สามารถเจรจาผ่านขยับเพดานหนี้ได้จนต้องหารือกันใหม่อีกครั้งวันศุกร์นี้ 

     ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังเผชิญแรงกดดัน หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงาน ดัชนี CPI ของจีนในเดือนเม.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปีหรือนับตั้งแต่ต้นปี 2564ส่วนดัชนี PPI ของจีนในเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับลง 2.5% ในเดือนมี.ค.

๐๐๐

    บรรยากาศตลาดหุ้นไทยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนลบ ซึ่งเป็นการพักตัวหลังจากตอบรับปัจจัยบวกไปมากในช่วงที่ผ่านมา แม้เมื่อตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง ทำให้การประชุมครั้งหน้าตลาดยังมีความกังวลว่าธนาคารสหรัฐยังมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้ โดยที่ปัจจัยที่ต้องติดตามในคืนนี้เป็นการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของสหรัฐเดือนเม.ย.ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ประกอบกับยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

๐๐๐

   ดัชนีหุ้นไทยมาปิดตลาดที่ 1,567.70 จุด ลดลง  2.16 จุด  เปลี่ยนแปลง 0.14  % มูลค่าการซื้อขาย 52,780.29 ล้านบาท ซึ่งมีนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ  2,904.24ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 79.22ล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 1,382.81 ล้านบาท และต่างชาติขายสุทธิ 1,600.64ล้านบาท 

๐๐๐

     ราคายังร่วงไม่หยุดสำหรับ BANPU ลงมาปิดราคาต่ำสุดของวันที่ 8.30 บาท ลดลง3.49% บริษัทรายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/66 ที่ 5.0 พันล้านบาท (ลดลง 51% YoY แต่ฟื้นตัวจากขาดทุน 278 ล้านบาทใน 4/65) ต่ำกว่าเราคาด 16% หลักๆจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร(SG&A expense) ที่สูงกว่าคาด ทั้งนี้กำไรลดลง YoY หลักๆเป็นผลจากราคาก๊าซธรรมชาติ US ที่อ่อนตัว 

    ขณะที่ฟื้นตัว QoO เป็นผลจากการไม่มีรายการตั้งสำรองเผื่อด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) ของเหมืองในมองโกเลียคาดว่ากำไรของบริษัทจะอ่อนตัวในไตรมาส 2/66 หลักๆตามแนวโน้มราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ลดลงจากอุปสงค์การใช้พลังงานความร้อนที่ต่ำกว่าคาดในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาของประเทศตะวันตก

๐๐๐

    ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่าได้ปรับคำแนะนำ BANPU ลงเป็น “ถือ” จากเดิม “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2566 ที่ 9.00 บาท (เดิม 14.50 บาท) อิงวิธี SOTP ทั้งนี้ แม้ราคาปิดล่าสุดสะท้อน 2023E PBV ที่น่าสนใจที่ 0.62x (ประมาณ -1.00SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) เชื่อว่าบริษัทจะเห็นกำไรที่อ่อนตัวลงในไตรมาส 2/66 และยังไม่มี ปัจจัยบวกในระยะสั้น