บางจาก ใหญ่ขึ้นแค่ไหน เมื่อรวมกับ เอสโซ่

บางจาก ใหญ่ขึ้นแค่ไหน เมื่อรวมกับ เอสโซ่

เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ยังไม่เปิดตลาด เมื่อบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ทุ่มเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ฮุบกิจการ ทั้งหมดของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO โดยได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ESSO โดยทำการเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรง จำนวน 2,283.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 65.99% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยซื้อจาก บริษัท ExxonMobil Asia Holding Pte.Ltd. โดยได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค.66

.

ทั้งนี้ บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ESSO จากรายย่อย จำนวน 34.01% ด้วย

.

สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญนอกเหนือจากการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศไทยแล้ว ยังมีความหวังขึ้นแท่นโรงกลั่นใหญ่สุดของประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน ถึงต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันชั้นนำของไทย

.

ขณะเดียวกันจะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการให้เครือข่ายการขนส่งน้ำมันมีความกว้างขวางและครอบคลุมเพื่อจัดหาน้ำมันให้แก่ลูกค้าในราคาที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ บริษัทจะมีความได้เปรียบจากโครงสร้างด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสมด้วย

.

นอกจากนี้ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 2 เท่า หากพิจารณาในแง่ของการดำเนินงานของธุรกิจโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันของบริษัทในไทย และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการพัฒนาทางด้านการเติบโตของธุรกิจและการทำกำไร รวมถึงการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจการกลั่นน้ำมันช่วยให้มีความมั่นคงและทางเลือกเพิ่มเติมในแง่การจัดหาเชื้อเพลิง

.

โดยบริษัทจะเป็นเจ้าของและผู้ประกอบกิจการโรงกลั่นซึ่งเชื่อมต่อกับทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล รองรับการรับเรือขนาด Very Large Crude Carriers : VLCCs และทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงระบบท่อส่งน้ำมันผลิตภัณฑ์หลักถึง 2 แห่ง รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการเพิ่มกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินและดีเซลรองรับในช่วงที่ราคาน้ำมันผันผวน

.

ขณะเดียวกัน ด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของเอสโซ่ บริษัทจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตและการขายผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ดังนั้น การเข้าธุรกรรมส่งผลให้บริษัทมีโอกาสอันดีในการดำเนินการขยายธุรกิจการขายปลีกของบริษัทด้วย

.

ทั้งนี้ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งจากฝั่งผู้ซื้อ BCP และผู้ขาย ESSO มาให้นักลงทุนได้รับทราบเบื้องต้นว่า หลังการควบรวมกิจการแล้วโอกาสของธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

***********************************