Construction Services Sector คลื่นลูกใหม่กำลังจะมา
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ราชกิจจานุเบกษามีประกาศเห็นชอบคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคเพื่อไทย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะมีอำนาจในการอนุมัติ โครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ โดยนายสุริยะ
เราเชื่อว่าครม.ชุดใหม่และกระทรวงคมนาคมจะเริ่มเปิดตัวโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราคาดว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ใหม่จะมีการประมูลในช่วงไตรมาส 3/2566-4/2566 ผู้รับเหมางานโยธาจะลงนามในโครงการในระหว่างไตรมาส 4/2566-1/2567 เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบและเวนคืนที่ดินเป็นเวลา 3-9 เดือนหลังจากผลการประมูล และเริ่มก่อสร้างได้ในครึ่งหลังของปี 2567
โครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ โครงการที่อยู่ในแผนซึ่งคาดว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะยื่นประมูลในช่วงไตรมาส 3/2566-2/2567 ได้แก่
1) การเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้ม (มูลค่า 9.6 หมื่นลบ. โดย BEM เป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุด)
2) รถไฟรางคู่ 3 เส้นทาง ได้แก่ ขอนแก่น-หนองคาย (มูลค่า 2.66 หมื่นลบ.) ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี (มูลค่า 3.75 หมื่นลบ.) และปากน้ำโพ-เด่นชัย (มูลค่า 6.28 หมื่นลบ.)
3) ส่วนต่อขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์สายสีแดง (มูลค่า 2 หมื่นลบ.) และเส้นทางมอเตอร์เวย์ M5, M8, M9
แนวโน้ม เราคาดการณ์ว่ากลุ่มบริการก่อสร้างจะมีแนวโน้มสดใสยิ่งขึ้นจากการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จ เราคาดว่าผู้รับเหมางานโยธาอย่าง CK และ STEC จะได้ประโยชน์ก่อนเนื่องเป็นผู้ที่เข้าร่วมการประมูล ตามมาด้วยผู้รับเหมาช่วงงานตอกเสาเข็มอย่าง SEAFCO และ PYLON ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่เข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง
อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหม่จะเริ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 2567 ซึ่งเป็นช่วง 9 เดือนข้างหน้า ผู้รับเหมางานตอกเสาเข็มที่มีอัตราการแปลง backlog เป็นรายได้อย่างรวดเร็วจะยังคงเผชิญกับข้อจำกัดด้านกำไรเป็นเวลา 2-3 ไตรมาส เนื่องจาก backlog ในปัจจุบันทำให้งานค้างอยู่ในระหว่างรอการก่อสร้างโครงการใหม่ที่จะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2567
