ข่าวการปรับลดสัดส่วนการถือครองหน่วยลงทุนของ TRUE ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ในช่วงนี้ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนรายย่อยที่ถือครองหน่วยลงทุน DIF อยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งหากย้อนไปดูมูลค่าหน่วยลงทุน จะพบว่ามีการปรับลดลงต่อเนื่องกัน 3 วันติด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 30 กันยายน ที่บอร์ด TRUE มีมติอนุมัติ ขายหน่วยลงทุน DIF จำนวน 300 ล้านหน่วย คิดเป็น 2.8% มูลค่า 4.02 พันล้านบาท แต่หลังจากการขายหน่วยลงทุนดังกล่าว TRUE ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนราว 23.28%
ความเคลื่อนไหวราคากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ปิดตลาดภาคเช้า (2/10/2020) ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาด ล่าสุด เวลา 12.30 น. ราคาอยู่ที่ 13.20 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 2.94%
นักวิเคราะห์มองว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเพียง Sentiment เชิงลบระยะสั้น และไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของ DIF หากเทียบกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6-7% ที่ผู้ลงทุนจะได้รับ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ยังคงมองว่า ในระยะยาว DIF ยังเป็นตราสารที่มีมูลค่าสำหรับกลุ่ม TRUE ทั้งการเป็น Vehicle tool สำหรับ Divest Asset 5G หรือให้ส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งในงบกำไรขาดทุน จึงไม่มีเหตุผลจูงใจที่ TRUE จะลดน้ำหนักการถือหน่วยจำนวนมากไปกว่านี้อีก โดยมองว่าการที่ TRUE ถือหน่วยลงทุนของกองทุนฯ ถือเป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็น Value Investing
อีกทั้ง การบริหารเงินสดของ TRUE ยังมีทางเลือกอื่น เช่นเดียวกับรอบการจ่ายเงิน Cash CAPEX ที่กำลังจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในปี 2563 โดยราคาเปิดตลาดเช้านี้ 13.60 บาท ยังคงถือว่าน่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่มองหาเงินปันผลเป็นหลัก และการลงทุนระยะยาว นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้ "ซื้อ" และให้ราคาเหมาะสมไว้ดังนี้