ห้องเม่าปีกเหล็ก

สงครามเศรษฐกิจยกสอง !!! “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

โดย ใจอยู่ที่กระบี่
เผยแพร่ :
264 views

สงครามเศรษฐกิจยกสอง !!!

“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

“ตกตายตามกัน”

 

 

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลัง G7 ประกาศนโยบายใหม่

Russian Oil Price Cap

โดยหวังกดรายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียให้ลดลง ไม่ให้มีเงินไปทำสงคราม

พร้อมช่วยกดราคาพลังงานในตลาดโลก เพื่อช่วยลดปัญหาเงินเฟ้อ

ท่านปูติน ก็ย้อนศร แลกหมัด โดยให้ประกาศว่า

ท่อก๊าซของรัสเซีย Nord Stream 1 รั่วชำรุด คงไม่สามารถส่งก๊าซให้ยุโรปได้อย่างไม่มีกำหนด

ทำให้เกิดผลพวงทางเศรษฐกิจต่างๆ ตามมา มากมาย

จากลมปากของทั้งสองฝ่าย ที่ยังรบกันทางเศรษฐกิจไม่เลิก

สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและการเงิน อย่างกว้างขวาง

 

หุ้นสหรัฐ Dow Jones ที่ขึ้นดีๆ 370 จุด เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

จากข้อมูลตลาดแรงงานที่ยังไปได้ดี ยังสร้างงานประมาณ 3.15 แสนตำแหน่ง

แต่หลังจากท่านปูตินประกาศว่า คงไม่สามารถส่งก๊าซให้ได้

Dow ก็ตกลงมาระหว่างวันถึง -844 จุด!!!

(แข่งกับสถิติท่านประธานเฟดที่มาเขย่าตลาด -1,008 จุด เมื่อไม่นานมานี้)

 

เงินยูโรที่อ่อนแล้ว ก็เริ่มอ่อนอีก

ล่าสุดเช้านี้ไปแตะ 0.9904 ยูโร/ดอลลาร์

โดยหลายสำนักเช่น Goldman Sachs คาดว่า

คงจะต้องอ่อนลง ต่อไปอีกระยะ

 

ราคา Gas Future ที่เหวี่ยงขึ้นลงไปมา

ฆาตกรรมนักลงทุนในตลาด Future

ที่ถูก Margin Call ขาลง ในช่วงที่ประกาศนโยบาย Price Cap

และกำลังจะถูก Margin Call เช้านี้ หากราคาในยุโรปกระโดดขึ้นสูงอีกรอบ

 

ที่น่าสงสาร ก็คือ คนยุโรปตาดำดำ

ซึ่งจะต้องแบกรับผลพวงจากสงคราม

จากผู้นำของเขา ที่รบกันไม่ยอมหยุด

ราคาไฟฟ้า ราคาก๊าซที่สูงลิ่ว เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ทำให้ร้านอาหารในยุโรปบางส่วนอาจจะต้องปิดกิจการ

โดยร้านอาหารหนึ่งในไอร์แลนด์ให้สัมภาษณ์ว่า

ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มมากกว่า 4 เท่าจาก 2,370 มาเป็น 9,836 ยูโร

ไม่แน่ใจว่า จะเปิดต่อได้อีกนานเท่าไร

โรงงานในยุโรปกำลังจะต้องคิดถึงการปิดโรงงานลง

เช่น โรงงานหลอมอะลูมินัม และโลหะอื่นๆ

ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากในการหลอม

ล่าสุด ก็อาจจะต้องปิดโรงงานลง กระทบต่อ

Supply Chain ต่างๆ เช่นรถยนต์ เครื่องบิน ขนส่ง อาวุธ เครื่องจักรต่างๆ ที่ต่อเนื่องมา

และการจะกลับมาก็ยาก เพราะการจะเปิดได้ต้องใช้เวลาเริ่มหลายเดือน

 

สำคัญที่สุด ฤดูหนาวที่จะมาถึง

คงเป็นฤดูหนาวที่ลำเค็ญของคนยุโรป

เพราะก๊าซที่มีอาจจะไม่พอสำหรับช่วงดังกล่าว

โดย Klaus Mueller, ประธาน FNA หน่วยงานกำกับด้านพลังงานของเยอรมันบอกว่า

ในกรณีที่เยอรมันสามารถสำรองก๊าซไว้ได้ 95% ของถังเก็บ

ก็จะสามารถใช้ได้เพียง 2.5 เดือน หากรัสเซียปิดท่อก๊าซลง

แต่ปัจจุบัน สำรองไว้ได้เพียง 85% เท่านั้น

ซึ่งหมายความว่า ต่อไปนอกจากราคาพลังงานจะสูงลิ่ว

คนยุโรปอาจจะต้องแบ่งบันการใช้ก๊าซกัน

 

สุดท้าย นำไปสู่ความกังวลใจว่ายุโรป

คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยง Recession ได้

จากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่มีอยู่เดิม

บวกกับต้นทุนดอกเบี้ยที่จะเพิ่ม จากการสู้ศึกเงินเฟ้อของ ECB

และการขาดแคลนก๊าซในช่วงต่อไป

การถดถอยทางเศรษฐกิจที่จะเกิด อาจมาเร็วกว่าที่คิด และอาจจะลึกกว่าที่คิดไว้

 

ทั้งหมดจึงมีนัยยะต่อไปยังเสถียรภาพทางการเมืองของยุโรป

ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ใน Czech Republic ได้มีการประท้วงใหญ่ที่มีคนประมาณ 7 หมื่นคนเข้าร่วม

แสดงความไม่พอใจกับการที่รัฐบาลไม่สามารถที่จะควบคุมราคาพลังงาน และเงินเฟ้อได้

ช่วยจุดประกายให้กับประชาชนในประเทศอื่นๆ ที่กำลังลำบาก ไม่พอใจรัฐบาล ให้คิดเรื่องนี้เช่นกัน

ซึ่งความลำบากเพิ่มขึ้นในช่วงหนาวมากกว่านี้

เมื่อธุรกิจต้องปิดตัวลง

ก็จะกระทบต่อประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อันจะนำมาซึ่งความไม่พอใจและการประท้วงในวงกว้างต่อไป

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ในเพียง 2-3 วันที่ผ่านมา

หลังท่านปูตินประกาศไม่ส่งก๊าซ

ประเทศต่างๆ ในยุโรป ต้องเร่งประกาศมาตรการออกมาเพื่อลดผลกระทบ

- รัฐบาลเยอรมัน ตั้งวงเงินไว้ 6.5 หมื่นล้านยูโร เพื่อช่วยครัวเรือนรับภาระ

- รัฐบาลสวีเดน เตรียมเงินไว้ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้เกิดสภาพคล่องในตลาดทุน

- รัฐบาลฟินแลนด์ เตรียมเงินไว้ 1 หมื่นล้าน เพื่อช่วยสภาพคล่องตลาดทุนเช่นกัน

นี่แค่เบื้องต้น และต่อไปคงต้องมีมาตรการออกมาช่วยเหลืออีก

เพราะเมื่อร้านค้าต่างๆ โรงงานต่างๆ เริ่มถูกกระทบ

คนเริ่มตกงาน คนเริ่มลำบาก

เสียงต่างๆ ก็จะยิ่งเริ่มดังขึ้น

ต้นทุนของประเทศในยุโรปในการสู้สงครามครั้งนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณ

และทำให้ประเทศที่มีหนี้ภาครัฐเยอะอยู่แล้ว มีหนี้เพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ ยังจะกดดัน ECB ให้คิดหนักว่าจะเอาอย่างไร

ในการประชุมสัปดาห์นี้

จะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไรจึงจะเหมาะสม

ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและสมดุลของความเสี่ยงที่เปลี่ยนไป

เพราะข้างหนึ่ง ก็คือเงินเฟ้อที่ยังเพิ่มไปที่ 9.1%

อีกข้างหนึ่ง คือ Recession ที่รออยู่ข้างหน้า

จากสงครามเศรษฐกิจที่รบกันไม่เลิก

ท้ายสุด ทั้งหมดนี้คงมีผลกระทบต่อเนื่องมายังประเทศอื่นๆ อย่างประเทศไทย

ผ่านความผันผวนของตลาดการเงินและค่าเงิน

ผ่านราคาก๊าซ

ผ่านการส่งออกที่ลดลงจาก Recession

ผ่านผลกระทบของ Supply Chain Disruption

กลายเป็นเชื้อเพลิงมาหนุนเสริมมรสุม Perfect Storm ให้ยกระดับ

ก็ได้แต่หวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีสติ และถอยคนละก้าว

เพราะถ้าเดินไปตามทางนี้ สุดท้าย คงเสียหายยับเยินทั้งสองฝ่าย

ส่วนหญ้าแพรกอย่างเรา ก็คงไม่พ้นภัยไปด้วยครับ

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก…FB.ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล


ใจอยู่ที่กระบี่