ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทําไมการปรับตัวของ Fed Fund Rate จึงมีความสําคัญกับตลาดหุ้น?

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
70 views

จากวัฏจักร Down Jones กับการปรับตัวของ Fed Fund Rate ดังนี้ คือ :

1) เดือน มีนาคม ปี ค.ศ 2000             :  Down Jones = 11,732 จุด และ Fed Fund Rate = 6.50%

( เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นขาลงเนื่องจากเกิดฟองสบู่ดอทคอม แล้วทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะหมีและ Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตลาดตราสารหนี้  )

2) เดือน ตุลาคม ปี ค.ศ 2003             : Down Jones = 7,717 จุด และ Fed Fund Rate = 1.00% ฟองสบู่ดอทคอม )

( เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นขาขึ้น แล้วทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะกระทิงและ Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น )

3) เดือน มิถุนายน ปี ค.ศ 2006           : Down Jones = 14,167 จุด และ Fed Fund Rate = 5.25%

( เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นขาลงเนื่องจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ แล้วทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะหมีและ Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตลาดตราสารหนี้  )

 4) เดือน มีนาคม ปี ค.ศ 2009             : Down Jones =  6,547 จุด และ Fed Fund Rate = 0.25% วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และ Fed Fund Rate ปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี ค.ศ 2015 ( 6 ปี หลังจากปี ค.ศ 2009 )  จาก 0.25% เป็น 0.50%  )

( เศรษฐกิจเสหรัฐอเมริกาป็นขาขึ้น แล้วทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะกระทิงและ Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น )

5) วันที่ 3 ตุลาคม  ปี ค.ศ 2018          :  Down Jones = 26,951 จุด และ Fed Fund Rate = 2.25%  All Time High )

( เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะกระทิงอย่างต่อเนื่องและ Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มายังตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง )

6) วันที่ 10 ธันวาคม ปี ค.ศ 2019       :  Down Jones = 24,001 จุด  และ Fed Fund Rate = 2.50% 

7) " เพื่อนผู้รู้ใจ " คาดว่า Down Jones จะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่อย่างน้อย 30,000 จุด ในวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 1 วัน และประธานาธิบดี Donald Trump จะได้รับเลือกตั้งให้กลับมาดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีก 1 สมัย และจะเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกาในอนาคต

8) " เพื่อนผู้รู้ใจ " คาดว่า ฟองสบู่โลกจะแตกในปี พ.ศ 2564 เนื่องจากปัญหาหนี้สินท่วนโลก ซึ่งก็คล้องจองกับการคาดการณ์ของ Ray Dalio และ J.P.Morgan

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.bloomberg.com ) และ (  www.google.com ) 

               2) " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จึงยํ้านักยํ้าหนาว่า " ถ้าอยากจะควบคุมสภาวะตลาดให้ได้ จะต้องควบคุมการปรับตัวของ Fed Fund Rate ให้ได้


ศักดิ์