ห้องเม่าปีกเหล็ก

ผลตอบแทนของ " เจ้าพุ่งเป็นจรวด "

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
68 views

คําว่า ผลตอบแทนของ " เจ้าพุ่งเป็นจรวด " นั้น ผู้โพสต์หมายถึง ผลตอบแทนของ " ITD-W1 " ตั้งแต่ทําจุดตํ่าสุดในขาลงรอบใหญ่รอบที่แล้วระหว่างวันที่ 10 เมษายน - 10 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 ที่ 0.07 บาท จนกระทั่งปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 0.12 บาท ในวันนี้ วันที่ 2 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561 หรือ ปรับตัวขึ้นมาแล้ว ( 0.12 - 0.07 ) / 0.07 x 100 = +71.43% 

ผู้โพสต์คาดว่า " เจ้าพุ่งเป็นจรวด " หรือ " ITD-W1 " น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องด้วย " Driven Factors " หรือ " ปัจจัยขับเคลื่อน " ดังนี้ คือ :

1) การขายซองประมูลโครงการแหลมฉบังเฟส 3 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

2) การขายซองประมูลโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

3) การยื่นซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

4) การขายซองประมูลโครงการท่าอากศยานนานาชาติอู่ตะเภาในวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

5) การขายซองประมูลโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

6) การปลดล็อคทางด้านการเมืองเพื่อให้ทํากิจกรรมได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

7) การประมูลทางด่วนสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนตะวันตก หลังจากการประสบผลสําเร็จในการระดมทุนของ TFFIF และ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 31 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561

8) การประมูลทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 และ N3 หลังจากการประสบผลสําเร็จในการระดมทุนของ TFFIF และ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 31 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561

9) โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ที่น่าจะทยอยประมูลได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป

10) การเลือกตั้งทั่วไป ใน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2562

และ ถ้าการเลือกตั้งทั่วไปของไทยเกิดขึ้นจริงใน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2562 วันที่จะทําการขาย ITD-W1 ก็คือ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2562 และ เมื่อขาย ITD-W1 แล้วก็ซื้อ ITD ทันที แล้วถือ ITD ไปขายในช่วงปลายปี พ.ศ 2563 โดยมี " Driven Factors " อย่างต่อเนื่อง หรือ " ปัจจัยขับเคลื่อน " อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ คือ :

1)โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท น่าจะมีการประมูลอย่างต่อเนื่องไปถึงปลายปี พ.ศ 2563 เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล คสช. และ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยหรือ TFFIF กองที่ 1 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งน่าจะมีการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือ TFFIF กองต่อๆไป ซึ่งจะทําให้รัฐบาลมีแหล่งเงินทุนสําหรับลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทโครงการที่เหลืออื่นๆต่อไป

2) ความคืบหน้าของโครงการทวายที่รัฐสภาพม่าได้อนุมัติเงินกู้จากรัฐบาลไทยจํานวน 4,500 บาท เพื่อสร้างถนนจากทวายมายังพุนํ้าร้อนแล้ว

3) ประทานบัตรเหมืองโปแตส จ.อุดร ที่อยู่ในขั้นตอนการอนุมัติจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม

แผนการขาย ITD ประมาณปลายปี พ.ศ 2563 นั้น มีสาเหตุเพราะ :

1) ในช่วงปลายปี พ.ศ 2563 นั้น 80% ของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท น่าจะมีการประมูลและรู้ผลแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่เป็นจุดสูงสุดของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

2) โครงการทวาย ประเทศพม่า น่าจะเดินหน้าก่อสร้างโครงการได้ เนื่องจากมีนักลงทุนที่ไปลงทุนประเทศจีนย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทย เพราะสงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งนอกจากที่จะไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจอีอีซี ( EEC ) แล้ว อีกส่วนหนึ่งก็น่าจะย้ายฐานการลงทุนมาที่โครงการทวาย ประเทศพม่า

3) ถึงเวลานั้น โครงการโปแตส จ.อุดร  ก็น่าจะได้รับใบอนุญาติประทานบัตรและเริ่มพัฒนาโครงการได้แล้ว

4) ฟองสบู่โลกแตกในปีต่อมาคือปี พ.ศ 2564

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com ) และ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 - 7 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com


ศักดิ์