ห้องเม่าปีกเหล็ก

“ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็น โอกาส หรือ อากาศ?

โดย Analog
เผยแพร่ :
363 views

“ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็น โอกาส หรือ อากาศ?

บนความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

.

นโยบาย “Digital Wallet” ภายใต้พรรคเพื่อไทย ถูกพูดถึงในวงกว้าง และเป็นนโยบายที่ประชาชนต่างเฝ้ารอดูว่า จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามนโยบายดังกล่าวใช้เม็ดเงินมหาศาลกว่า 5.45 แสนล้านบาท ทำให้เป็นที่ถกเถียงกันว่างบประมาณจะเอามาจากไหน และจะคุ้มค่าหรือไม่?

.

สำหรับ นโยบาย Digital Wallet พรรคเพื่อไทยยืนยัน 10,000 บาท การจ่ายเงิน "งวดเดียว" สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นทั้งการบริโภค และการลงทุนทั่วประเทศ" โดยคาดจะเริ่มใช้ภายในไตรมาส 1/67 ซึ่งคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยต้องมีบัตรประชาชนเลข 13 หลัก ส่วนประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการอื่น ๆ เช่น คนชรา คนพิการ ก็จะได้รับเงินเต็มจำนวน 10,000 บาทเช่นกัน

.

โดยการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลผ่านนโยบาย Digital Wallet เพื่อกระกระตุ้นเศรษฐครั้งใหญ่ของไทย จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มองว่า นโยบาย “Digital Wallet” ภายใต้พรรคเพื่อไทย สนับสนุนเงินดิจิทัลแก่ประชาชน 10,000 บาทต่อคน รวมจำนวน 54.5 ล้านคน เม็ดเงินจะใช้เงินราว 5.45 แสนล้านบาท หรือ 3% ของ GDP ปี 66 ไทยที่ 18.17 ล้านล้านบาท โดยคาดมาตรการจะเริ่มได้เดือน ก.พ. 67

.

อย่างไรก็ตามหากมองไปยังประเทศพัฒนาที่เคยใช้นโยบายกระตุ้นบริโภค อาทิ สหรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจสำเร็จมาแล้ว อิงช่วง COVID-19 มีการแจกจ่ายให้กับประชาชนอเมริกันโดยตรง 1,400 เหรียญสหรัฐต่อคน ใช้วงเงินรวม 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.9% ของ GDP

.

โดยหนุนภาคการบริโภคที่ไตรมาส 2/63 ลดลง 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหนุนให้ช่วงไตรมาส 3-4/63 หดตัวลดลงเหลือเพียง 0.65% และ 0.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ดังนั้นจึงประเมินมาตรการ Digital Wallet มีโอกาสสร้างวงจรดังกล่าวต่อไทยเช่นกัน

.

ขณะเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประเมินมาตรการดังกล่าวจะบวกต่อ GDP ได้ราว 3% จากคาดการณ์ GDP ปี 67 ของไทยปัจจุบันที่ราว 3.6% ขึ้นมาเป็น 6.6% และสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเป็นฐานที่ดีในการต่อยอดขับเคลื่อน GDP ไทยเติบโตปีละ 5% ขึ้นไป คาดจะสร้างความเชื่อมั่น Fund Flow ต่างชาติที่ลดการลงทุนใน SET ไปมาก กลับเข้ามาลงทุนหุ้นไทยอีกครั้ง

.

สำหรับแหล่งเงินทุน หากรัฐก่อหนี้ ยังสามารถทำได้ โดย Public Debt ต่อ GDP ณ. เดือน ก.ค. อยู่ที่ 61.7% ของ GDP จะเพิ่มสู่ระดับไม่เกิน 65% ไม่เกินเพดานตามกรอบวินัยการเงินการคลังที่ 70%

.

ดังนั้นประเมินหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มค้าปลีกอิงฐานราก เน้น CPAXT, CPALL, DOHOME, GLOBAL, TNP กลุ่มเช่าซื้อ JMT, MTC (Trading) กลุ่มดิจิทัล เน้น BE8, ADVANC

.

ทั้งนี้อุปสรรคการจัดหาแหล่งเงินทุนจำกัด หนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า รัฐบาลหาช่องทางระดมเงินใช้ทำนโยบายแจกเงิน “Digital Wallet” 10,000 บาท โดยอาจสามารถเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 1/67 ส่วนแหล่งเงินที่จะใช้ในการดำเนินนโยบาย ประเมินว่าอาจมีที่มาจาก 3 ส่วน

.

1.การจัดสรรงบประมาณ โดยความเห็นจาก TDRI หรือ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ระบุไว้ว่า แหล่งที่มาของเม็ดเงินน่าจะมาจากดังนี้ รายรับจากภาษีของรัฐบาลในปี 2567 ซึ่งประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 แสนล้านบาท

.

การบริหารจัดการงบประมาณ และปรับสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 2 แสนล้านบาท การจัดเก็บภาษีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1 แสนล้านบาท

.

2.การกู้เงินโดยประเทศไทยมีหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 61.15% (ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย.66) ซึ่งตามกรอบวินัยการคลัง สามารถกู้เพิ่มได้จนกว่าหนี้สาธารณะต่อ GDP จะอยู่ที่ระดับ 70% ซึ่งจะกู้เพิ่มได้อีกราว 1.58 ล้านล้านบาท (บนสมมุติฐาน GDP 17.86 ล้านล้านบาท) แต่โดยหลักการแล้วไม่ควรกู้จนเต็มเพดานหนี้

.

3.กระทรวงการคลังอาจจะลดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ให้ กบข.-ประกันสังคม ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าสามารถทำได้ และได้เงินระยะสั้นปริมาณมาก รวมถึงตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากความผันผวนจากประเด็นดังกล่าวจำกัด เนื่องจากกองทุนวายุภักษ์เป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย ล่าสุดมีมูลค่าพอร์ตอยู่ที่ 3.47 แสนล้านบาท รองรับเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายได้พอสมควร

.

ขณะที่กองทุนประกันสังคม มีเงินในพอร์ตลงทุนสิ้นปี 2565 ที่ 2.27 ล้านล้านบาท เป็นสัดส่วนหุ้นไทย 11.05% หรือ 2.51 แสนล้านบาท ส่วนกบข. มีเงินในพอร์ตลงทุนสิ้น มิ.ย. 2566 ที่ 4.65 ล้านล้านบาท เป็นสัดส่วนหุ้นไทย 4.28% หรือ 2.0 หมื่นล้านบาท (ในอดีตถือหุ้นไทยราว 7% ของพอร์ตรวม) แสดงให้เห็นว่ากองทุนกบข.-ประกันสังคม มีขนาดใหญ่พอ และน่าจะรองรับการขายหุ้นของกองทุนวายุภักษ์ทำให้ได้เงินมาพอสมควร

.

สรุปการหาแหล่งเงินทุนจากนโยบายพรรคเพื่อไทย ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่ามีความ เป็นไปได้สูง จากทางเลือกที่หลากหลายทั้ง 3 แนวทางที่กล่าว หนุนให้การดำเนินนโยบายต่างๆ มีความราบรื่นขึ้น

 

 


Analog