ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTG ลั่นปีนี้ผลงานทุบสถิติ..สถานีบริการคือ Touchpoint

โดย Ozone Pinyo
เผยแพร่ :
71 views
 
PTG ลั่นปีนี้ผลงานทุบสถิติ..สถานีบริการคือ Touchpoint
 

          ภาพรวมธุรกิจของ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ผู้ประกอบธุรกิจหลักค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้สถานีบริการน้ำมัน PT เริ่มกลับมาดูดีอีกครั้งเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนที่กำไรลดลงทุกปีจากราว 1 พันลบ.เหลือ 624 ลบ.ในปี61 แต่ปีนี้แค่ไตรมาสเดียวฟันกำไรไปถึง 520 ลบ.เกือบเท่าปีก่อนทั้งปี  

          ราคาหุ้นเพิ่งขึ้นมาทะลุ 10 บาทหลังประกาศงบไตรมาสแรก และเป็นแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่วงการเริ่มมีมุมมองบวกต่อหุ้น PTG โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ผลประกอบการน่าจะเทิร์นอะราวด์  

          “รังสรรค์ พวงปราง” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG จะมาตอบคำถามสำคัญว่ามีโอกาสเป็นไปได้แค่ไหนกับเวลาในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ ในการทำผลงานทั้งปีให้ดีอย่างที่ตลาดคาดหวัง  

1.วงการคาดปีนี้จะ turn around มั่นใจแค่ไหนกับอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ?   

          จากไตรมาส 1 ผ่านมาไตรมาส 2 แล้ว เรามองเห็นว่าสถานการณ์ตลาดมันควรจะเป็นไปอย่างนี้ตลอดทั้งปี แต่โดยธรรมชาติของธุรกิจน้ำมันไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ผลประกอบการจะตกลงมาเล็กน้อย ก่อนจะปรับขึ้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงของฤดูกาล

          “เพราะฉะนั้นไตรมาส 3  มันจะ drop แต่เชื่อว่าปีที่แล้วไตรมาส 3 มันได้ถึงจุดต่ำสุดแล้วแต่ปีนี้ไม่มีแบบนั้น ราคาน้ำมันเป็นไปตามสภาวะการณ์ตลาดหรือเป็นไปตามธรรมชาติของธุรกิจ เพราะฉะนั้นเราก็คาดหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ทาง PTG น่าจะทำนิวไฮอีกครั้งหนึ่ง เป็นไปตามเป้าหมายทั้งหมดทุกๆ ตัว”

          ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ของเราก็โตกว่าตลาดค่อนข้างมาก เราโตอยู่ที่ประมาณ 18% YoY และในส่วนของตลาดรวมโตแค่ประมาณ 2-3% เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าปริมาณเติบโตดีกว่าตลาด และยังโตกว่าที่เราคาดหวังไว้ อย่างปีที่ผ่านมาเราโตประมาณ 16-17% เท่านั้น

2.มีแผนงาน-เป้าหมายทางธุรกิจปีนี้อย่างไรบ้าง?   

          ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปีนี้ เราวางเป้าไว้ที่โตประมาณ 15-20% EBITDA เราโตประมาณ 40-50% ซึ่ง ณ ปัจจุบันเราก็ยังคอนเฟิร์มว่าเราน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย

          ส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ตอนนี้สัดส่วนยังน้อยมากแค่ 3% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจนี้ยังขยายตัวได้ไม่ครอบคลุมพื้นที่มากพอ ภาพตัวรายได้จึงยังเทียบกันไม่ได้ ยังห่างกันมาก 97% กับ 3%

          แต่หากพูดในแง่ของกำไรขั้นต้นจะเห็นภาพชัดเจนกว่าเพราะ Non-Oil มีกำไรดีกว่า Oil โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนของกำไรขั้นต้นมาจาก Oil ประมาณ 85% ที่เหลือ 15% มาจาก Non-Oil ซึ่งแม้สัดส่วนจะมีแค่ 15% แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะเริ่มทำกำไรได้ดีขึ้นกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนที่ Non-Oil มีสัดส่วนเพียง 3% ของกำไรขั้นต้นเท่านั้น  

          ด้วยการที่อัตราการทำกำไรของ Oil ต่ำแต่ในส่วนของ Non-Oil จะสูงกว่าเพราะฉะนั้นเราจึงต้อง Balance ความเสี่ยงของธุรกิจ ก็พยายามจะปรับลดสัดส่วนทางด้าน Oil ลง เพราะเวลาที่เราไปพึ่งพิงจาก Oil มากเกินไป การแกว่งตัวของค่าการตลาดจะทำให้ภาพของปีที่แล้วกลับมาได้ เราก็ต้องพยายามบริหารจัดการส่วนนี้

3.สัดส่วนรายได้ระหว่าง Oil กับ Non-Oil ในอนาคต

          ทาง CEO ของเราให้เป้าหมายไว้ว่า เราควรจะมีสัดส่วนของ Oil ลดลงมาเหลือประมาณ 40% และเป็น Non-Oil 60% นี่คือเป้าหมายที่เราจะต้องทำภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีนับจากนี้

4.มีแผนขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างไรบ้าง   

          ตอนนี้เรามีกาแฟอยู่ 2 แบรนด์ ถ้าเป็นแบรนด์ในสถานีบริการที่จับกลุ่มลูกค้าประเภทนักเดินทางเราก็ใช้แบรนด์ “พันธุ์ไทย” ซึ่งแบรนด์พันธุ์ไทยตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณ 222 สาขา แต่เราตั้งเป้าหมายในสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 400 สาขา หรือขยายเพิ่มปีละ 200 สาขา

          สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เดินช็อปปิ้งตามห้างจะเป็นแบรนด์ของ “Coffee World” ตอนนี้เรามีอยู่ประมาณ 74-75 สาขา จะขยายเพิ่มไม่มากเพราะมันอยู่โลเกชั่นนี้ที่เป็นไพรม์แอเรีย ก็จะอยู่ประมาณ 10-20 สาขาไม่เกินนี้ ขึ้นอยู่กับแอเรียที่จะขึ้นก็จะอยู่ตามสนามบิน เป็นต้น

         กลยุทธ์ในปีนี้เราปรับกลยุทธ์ด้านการขยายตัวของแฟรนไชส์ จากเมื่อก่อนที่อยู่ในช่วงของการสร้างระบบ มาปีนี้เราจะเริ่มปล่อยแฟรนไชส์ ตอนนี้มีคนเข้ามาสมัครเยอะมากเราก็เปิด Public ให้เข้ามาฟังรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจกาแฟทุกๆ เดือน แล้วก็คัดเลือกเข้ามาเพราะตรงนี้จะสามารถเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับ PTG

5.มีแผนงานอย่างไรให้คนรู้จักแบรนด์ กาแฟ ของเรามากขึ้น

          ก็คงต้องใช้ทางด้านของสื่อ ซึ่งตลอด 5-7 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้โฆษณาธุรกิจ Non-Oil และร้านกาแฟเลย มีตัวเดียวของเราก็คือ Maxnitron น้ำมันหล่อลื่นที่มีโฆษณา อย่างไรก็ตาม ผลตอบรับของกาแฟแม้ยังไม่ได้โฆษณาก็ถือว่าดีมาก รสชาติเป็นที่ยอมรับของตลาด

          “เพราะฉะนั้น นับจากปีนี้เราตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะต้องเริ่ม Public ก็คือออกสื่อในแง่ของแบรนด์ พันธุ์ไทย กับ Coffee World ให้เป็นที่รู้จัก”

          10 ปีที่เราเติบโตขึ้นมาได้เกิดจากลูกค้าให้การตอบรับ เราก็เน้นทางด้านของคุณภาพและก็บริการ เพราะฉะนั้นทุกธุรกิจของ PTG ที่จะเดินไปข้างหน้า ก็จะโตไปตามสเกลของกระแสเงิน ที่เราสามารถทำได้จากธุรกิจเนื่องจากว่าเราไม่ได้มีเงินทุนที่มากมายนักซึ่งเราก็เน้นว่าสินค้าต้องมีคุณภาพ และบริการต้องโดนใจกลุ่มลูกค้า

           “เราจะไม่ใช้กลยุทธ์ลดคุณภาพสินค้า เพื่อให้ได้กำไรสูง เราไม่ใช้นโยบายอย่างนั้น เพราะเรามาหลังมาในตัวที่เล็กกว่า แบรนด์ยังไม่แข็งแรงมากเพราะฉะนั้น ก็ต้องเน้นคุณภาพและก็บริการที่ดี เพื่อให้ลูกค้าตอบสนองต่อแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น”

          ในขณะเดียวกันเราก็สร้างความรักความผูกพันกับแบรนด์ผ่านทาง Royalty ด้วยบัตร PT Max Card  ซึ่งปัจจุบันเรามี 11 ล้านสมาชิก ถือเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน

          “ตอนนี้รายได้ในสถานีบริการน้ำมันมี 70-73% มาจากบัตรสมาชิก ก็แสดงว่าเรามีฐานลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ของเรา ตัวกาแฟพันธุ์ไทยก็ตกประมาณ 50% กว่าที่มาใช้บริการ แล้วก็จากเติมน้ำมันก็ไปเติม LPG เพราะรถที่ใช้ LPG บางส่วนต้องเติมน้ำมัน ดังนั้นเขาเติมน้ำมันสะสมแต้มได้ ไปเติม LPG ก็สะสมแต้มได้ ซึ่งแบรนด์อื่นก็ไม่มีในเรื่องของ Royalty โปรแกรมแบบนี้”

6.นอกเหนือจากธุรกิจกาแฟ เรามีธุรกิจอะไรอีก

          มีออโต้แบคส์ (AUTOBACS) ซึ่งเป็นศูนย์ให้บริการ FAST FIT เพียงแต่เรายังไม่ได้เข้าไปเชิงรุกมากนัก ตอนนี้เรากำลังเริ่มที่จะปรับเพราะเราเพิ่งเข้าไปร่วมลงทุนกับญี่ปุ่นเพื่อทำตัวศูนย์บริการดูแล บำรุงรักษารถยนต์ซึ่งคิดว่าช่วงประมาณปลายปีนี้เราก็น่าจะเห็นอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงของออโต้แบคส์ ซึ่งต่อไปผมก็คิดว่ามันจะเป็นธุรกิจหนึ่งที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทพีทีจี

7.ภาพในอนาคต ถ้าพูดถึง PTG อยากให้คนนึกถึงอะไร

          ผมคิดว่าในอนาคตทาง PTG เรามองเป็น “จุดที่ให้บริการ” กับลูกค้าของเราทุกๆ คนไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางหรือชุมชน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงสร้างปฏิสัมพันธ์กันมากกว่า เพราะในจุดของสถานีบริการ PTG ในอนาคตไม่ได้มองว่าเป็นแค่สถานีบริการน้ำมัน แต่มันจะเป็นจุดนัดพบหรือจุดสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้าด้วยกันเอง ซึ่งเขาอาจจะเดินทางแล้วนัดพบกันที่ PTG หรือร้านกาแฟ ซึ่งร้านกาแฟเราก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานีบริการ

          “เรามองว่าจุดแต่ละจุดของเราที่เป็นสาขาของเรามันคือจุด Touchpoint สำหรับรับรองลูกค้าเราจะมองเป็นอย่างนั้นนะครับ”

          เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ค่อยมีความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ เช่น หากรถไม่ใช้น้ำมันแล้วจะใช้อะไร เพราะเรายังมีธุรกิจอื่น เช่น LPG เราก็กำลังขยายไปทำ LPG สำหรับภาคครัวเรือน เราก็กำลังมองต่อไป

          นอกจากนี้ เรามีโรงงาน B100 ซึ่งผลิตน้ำมันพืชบริโภคด้วย ซึ่งน้ำมันพืชบริโภคก็เป็นจุดนัดพบของลูกค้า สามารถให้เขาขายโพรดักส์ของน้ำมันพืชสำหรับแม่ค้าซึ่งเขาเอาไปทำอาหารในราคาที่เหมาะสมผ่านบัตรสมาชิก ใครที่เป็นสมาชิก นัดพบอะไรกันที่ในจุดนัดพบของเรา

          เรามีทีมที่ออกไปพูดคุยกับลูกค้าอยู่ตลอด ว่าเราจะมีอะไรบ้างที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ นี่คือสิ่งที่ PTG ตั้งใจว่าจะไปให้ถึงในจุดๆ นั้นในอนาคต ซึ่งเราจะพยายามทำให้ได้ภายในไม่เกิน 5 ปี

          ณ ปัจจุบันลูกค้ายังเป็นส่วนใหญ่ที่พอเราถาม "ใช้บริการ PTG ไหม?" เขาตอบ "ไม่ใช้" ถูกไหมครับนั่นแสดงว่าเป็นโอกาสที่ยังมีลูกค้าอีกเยอะ เพราะจริงๆ เป้าของบัตรนี้ Max Card นี้ภายในปี 2022 เราตั้งเป้าไว้ว่าจะมีประมาณ 20 ล้านสมาชิก แสดงว่าในประเทศไทยทุกครัวเรือนต้องมีเป็น member ของ PTG

          “ในอีก 5 ปีข้างหน้าถ้าพูดถึง PTG มันจะไม่ใช่แค่สถานีบริการ เราจะบอกว่าเป็นจุด Touchpoint เราจะมีจุด Touchpoint มากกว่า 4,000 จุดทั่วประเทศจากตอนนี้มี 2,000 จุด”  

8.ตลาดประเมินมูลค่าหุ้นสูงสุด 15 บาท มองอย่างไร

          เราก็ดูไว้เป็นเกณฑ์นะครับว่าที่ 15 บาท เขาประเมินจากพื้นฐานอะไรบ้าง ส่วนตัวเรามีหน้าที่ทำให้ดีกว่าพื้นฐานที่เขาประเมินไว้ นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำ เวลาผมคุยกับนักวิเคราะห์ ผมก็จะบอกเลยว่ามีอะไรคอมเมนต์ที่ผมจะสามารถปรับให้ดีขึ้นได้

          “เพราะผมเชื่อมั่นว่า สิ่งที่จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องเกิดจาก Performance ของบริษัท วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ซึ่งผมมั่นใจในผู้นำของ PTG อยู่แล้ว วิสัยทัศน์ไม่เป็นรองใคร”           

          เราไปดูว่าที่ประเมิน 15 บาท เขามองเราอย่างไรในแต่ละด้าน แล้วเราจะทำลายสิ่งที่เค้าคาดเอาไว้อย่างไร คำว่าทำลายนี่คือต้องทะลุออกไป เพราะเรามีหน้าที่ ที่จะต้องจัดการกับสิ่งที่เค้าคาดหวังไว้ และสิ่งที่เขาท้าทายเรา

 

Source : EfinanceThai


Ozone Pinyo