เซ็นทรัลพัฒนา โกยกำไร

เซ็นทรัลพัฒนา โกยกำไร Q2/66 พุ่ง 34% ครึ่งปีหลัง เปิดศูนย์การค้า โรงแรม อสังหา

เจาะผลประกอบการ 'เซ็นทรัลพัฒนา' ไตรมาสสอง รายได้ทะลุ 11,133 ล้าน พุ่ง 22% กวาดกำไร 3,678 ล้าน ทะยาน 34% แรงหนุนนักท่องเที่ยวคึก กำลังซื้อในประเทศ รุกครึ่งปีหลังทั้งเปิดเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ 29 พ.ย.นี้ โรงแรม Centara Ayutthaya โรงแรม Centara One Rayong ขยายอสังหารวด 6 โครงการ

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ในช่วงไตรมาสสองของปี 2566 ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทั้งรายได้และกำไร ได้รับปัจจัยบวกจาก จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายในประเทศที่เติบโต

ภาพรวมรายได้ไตรมาสสองอยู่ที่ 11,133 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน สร้างกำไรสุทธิ 3,678 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวได้เร่งขยายกลุ่มธุรกิจ non-retail โครงการมิกซ์ยูส ทั้ง โรงแรม GO! Hotel อยู่ติดกับโรบินสันบ้านฉาง ในเดือน พ.ค. และคอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ เพชรบุรี ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันได้ร่วมจัด โครงการ “Sustainable Tourism Ecosystem” สนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลัก และเมืองรอง พร้อมจัดงานกรีนเอ็กซ์โปแห่งปี “Better Futures Project” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อีกทั้งมีแผนออก Sustainability linked loan / bond ใหม่วงเงิน 10,000 ล้านบาท

อีกทั้งได้ร่วมจัดงาน THAILAND’S PRIDE CELEBRATION 2023 “PRIDE FOR ALL” อย่างยิ่งใหญ่ งานที่แสดงพลังของ LGBTQIAN+ กว่า 500 ชีวิต ที่มาร่วมขบวนพาเหรดสะบัดธงสีรุ้ง สัญลักษณ์แห่งความเท่าเทียม ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วางหมุดหมายให้ประเทศไทยก้าวสู่ Top of Pride Destination ระดับโลก

แผนในครึ่งปีหลัง และปีต่อไป 2567 วางแผนเปิด Low Carbon Mall ศูนย์การค้าต้นแบบรักษ์โลกแห่งแรกที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central Westville) กำหนดเปิด 29 พ.ย.66 ต่อมา เซ็นทรัล นครสวรรค์ ช่วงไตรมาสแรก ปี 2567 ตามด้วย เซ็นทรัล นครปฐม ช่วงไตรมาสอง ปี 2567 และเซ็นทรัล กระบี่ ไตรมาสสี่ปี 2567 

อีกเรือธงของธุรกิจในกลุ่มโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์จะเปิดใหม่ในปีนี้ มีทั้งโรงแรม Centara Ayutthaya โรงแรม Centara One Rayong โรงแรม GO! Hotel อยู่ติดกับเซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี และโครงการที่อยู่อาศัย 6 โครงการ ประกอบด้วย NIRATI นครศรีธรรมราช บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม ESCENT 2 โครงการ

รวมถึงมีโครงการขนาดใหญ่ Mega Mixed-use กับ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) วางแผนทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 

“ทิศทางธุรกิจในอีก 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2566-2570 พร้อมขยายลงทุนโครงการตามแผนและโครงการใหม่ที่ไม่เคยประกาศ มีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม หรือ Mixed-use Development โครงการที่พักอาศัย มุ่งปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่า การร่วมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน”

นอกจากนี้ กำลังศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ และลงทุนในต่างประเทศมุ่งที่ภูมิภาคอาเซียน อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม พร้อมศึกษาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อร่วมสร้างรายได้ใหม่และผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ภาพรวมในไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 39 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้าน ตร.ม. มีการบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 6 แห่ง และโครงการที่พักอาศัย 29 โครงการ