สาเหตุที่ฟองสบู่ Renewable Energy น่าจะแตกในอนาคตอันใกล้นี้?

                 จากการที่ผู้โพสต์ได้เแสดงความเห็นไว้หลายครั้งหลายหนว่า ฟองสบู่ Renewable Energy น่าจะแตกในอนาคตอันไกล้นี้ ก่อนที่จะยิ่งใหญ่ในอนาคตที่ยาวไกลออกไปเกิน 10 ปี เหมือนกับ ฟองสบู่ดอทคอมที่แตกในปี ค.ศ 2000 แล้วกลับมายิ่งใหญ่ในปัจจุบันนั้น ผู้โพสต์คิดว่า สาเหตุที่ฟองสบู่ Renewabl Energy ที่น่าจะแตกในอนาคตอันใกล้นี้นั้น น่าจะมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆดังนี้คือ  :

                มีการบ้าคลั่งแห่ตามกระแส Renewable Energy กันมากจนเกินไป จนมีความเห็นกันโดยทั่วไปว่า Renewable Energy จะเป็น Mega-Trend ในอนาคตอันไกล้ แล้วทําให้ :

               1) มีการสนับสนุน Solar Energy  และ ต่อต้าน Fossil Fuel ในสมัยรัฐบาล Barack Obama เป็นอย่างมาก เพราะ มีการรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องโลกร้อนอย่างต่อเนื่องมาจากอดีตรองประธานาธิบดี Al Goreและ ต่อเนื่องมาจนถึง Paris  Protocal เมื่อไม่นานมานี้  แล้วทําให้ธุรกิจ Solar Energy เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะการพัฒนา Renewable Energy ยังไม่ถึงขั้นที่จะทําให้มีที่ต้นทุนถูกกว่า และ มีความมั่นคงทางพลังงานได้สูงกว่า Fossil Fuel  แล้วจึงเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทําให้ Donald Trump ซึ่งมีนโยบายสนับสนุน Fossil Fuel ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน

               2) TESLA เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยใหญ่กว่าทั้ง GM และ FORD ทั้งๆที่ยอดขายของ Tesla น้อยกว่าทั้ง GM และ FORD เป็นร้อยเท่า

               3) EV มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า EGCO  และ RATCH ทั้งๆที่กําลังการผลิตไฟฟ้าของ EA น้อยกว่า EGCO และ RATCH เป็นอย่างมาก

                ผู้โพสต์คาดว่า Fossil Fuel ยังจะมีบทบาทสําคัญในการที่จะเป็นแหล่งพลังงานของโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า เพราะ ต้นทุนยังถูกกว่าและมีความมั่นคงทางพลังงานที่สูงกว่า Renewable Energy  แล้วหลังจากนั้น Fossil Fule จะถูกทดแทนดัวย Renewable Energy ต่อไปในอนาคตในระยะยาว

                ผู้โพสต์ขอคาดการณ์ต่อไปว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทยน่าจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่ต้องรอให้ไฟฟ้าดับทั่วประเทศ ก่อน

หมายเหตุ : 1) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน ธุรกิจถ่านหินขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com

                 2) ตัวอย่างของฟองสบู่แตกก่อนหน้านี้ มีดังนี้คือ :

                       1) ฟองสบู่ดอกทิวลิป ในคริสต์ศตวรรษที่ 17

                       2) ฟองสบู่หุ้นบริษัท South Sea ในปี ค.ศ 1720

                       3) การตกตํ่าครั้งใหญ่ ( หรือ The Great Depression ) ในปี ค.ศ 1929

                       4) ฟองสบู่หุ้นบริษัทเทคโนโลยี ในช่วงปลายทศวรรษที่ 60

                       5) วิกฤติต้มยํากุ้งในปี ค.ศ 1997

                       6) วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี ค.ศ 2008

                                      เป็นต้น