ตี๋โบ๊โผล่หัวคุย

สวัสดีท่านนักลงทุน

นี่คือเพื่อนท่าน ไม่ใช่อาจาร ไม่ใช่นักวิเคราะ แต่เป็นคนมาแสดงความเห็น ในฐานะคนไม่มีอะไรจะทำ

และนำข่าวมาแจ้งท่านด้วย ข่าวมาจาก RYT9 แต่ก่อนได้มาจาก เดลิเมล์ ของอังกฤษด้วย พอมีการสังหารแหม่มที่มาเที่ยว แล้วไปจับใครมาอังกฤษเขาว่าเป็นแพะ ผมว่ามันไม่มีเขาแถมมี2ขาจึงเป็นแพะไปไม่ได้ แต่นั้นมาเวบเดลิเมล์ก็เข้าไม่ได้

*********************************************************

BOI เผย 7 เดือนกลุ่มอุตฯดิจิทัลยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนสูงสุดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ศุกร์ที่ 16 กันยายน 2559 10:56:32 น.
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยแนวโน้มการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็น 1 ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.59) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากถึง 155 โครงการ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีจำนวน 443 โครงการ โดยมีมูลค่าการขอรับส่งเสริมลงทุนรวม 2,540 ล้านบาท และยังมีบริษัทในกลุ่มดิจิทัลอีกหลายรายที่เตรียมยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ซึ่งคาดว่าภายในปี 2559 มูลค่าเงินลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หากพิจารณาเรื่องเงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลจะมีมูลค่าไม่สูงนัก แต่เป็นกิจการที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจ โดยช่วงที่ผ่านมามีโครงการที่ได้อนุมัติให้ส่งเสริมลงทุนที่น่าสนใจ อาทิ การลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิส (Cloud Service) โดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ เพื่อให้บริการดูแลระบบ บริหารจัดการ รวมถึงจัดเก็บข้อมูลผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่จะช่วยให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ขณะเดียวกันทำให้ลูกค้ามีระบบสำรองข้อมูลที่ดีและมีเครือข่ายความเร็วสูง รวมทั้งได้อนุมัติส่งเสริมลงทุนแก่กิจการของผู้ประกอบธุรกิจจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ช และร้านค้าออนไลน์ (Commerce Platform Service Provider) โดยบริษัทสนใจเข้ามาลงทุนในกิจการอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) จัดทำเว็บโปรแกรมในรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ สำหรับซื้อ-ขายสินค้าหรือให้บริการ ผ่านทาง World Wide Web (WWW) เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน เป็นต้น เนื่องจากบริษัทได้เข้ามาศึกษาถึงศักยภาพของตลาดออนไลน์ในประเทศไทยและพบว่ามีอัตราการขยายตัวสูง หลังจากที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนในตลาดออนไลน์แล้วในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และตุรกี

นอกจากนี้ยังได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยในการลงทุนกิจการเขตดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) มูลค่าเงินลงทุนกว่า 750 ล้านบาท ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรต่างๆ  ทั้งบริการรับฝากวางคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการดูแลระบบ การดูแลป้องกันและลดความเสี่ยงการเสียหายของข้อมูล ซึ่งการลงทุนของบริษัทจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงของภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางที่น่าเชื่อถือด้านศักยภาพและบริการไอทีในอนาคต

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ยังให้การส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตย้อนหลังได้ถึง 30 วัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง และในอนาคตบริษัทมีแผนจะถ่ายทอดเทคโนโลยี เทคนิคการเขียนโปรแกรม และการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรคนไทยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลของรัฐบาล

***************************************************************************************

นักวิเคราะห์คาดที่ประชุมแบงก์ชาติญี่ปุ่นเพิ่มวงเงิน QE พร้อมหั่นดอกเบี้ย

ศุกร์ที่ 16 กันยายน 2559 10:56:42 น.
นักวิเคราะห์คาดว่า ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย.ที่จะถึงนี้ แบงก์ชาติญี่ปุ่นอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ถึง 100 ล้านล้านเยนต่อปี จากระดับปัจจุบัน รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ -0.3% จากระดับปัจจุบันที่ -0.1%

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม

รายงานระบุว่า กรรมการอย่างน้อย 3 คนจากทั้งหมด 9 คนของ BOJ ต้องการให้คงขนาดของโยบายการเงินเอาไว้เท่าเดิม เพราะเกรงว่าอาจจะส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะที่กรรมการอีกจำนวนหนึ่งสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะกังวลว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะมีพันธบัตรไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงควรปรับนโยบายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ตั้งเป้าอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวและรับประกันว่าการซื้อพันธบัตรจะช่วยผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้ไปสู่ระดับดังกล่าว

******************************************************************************************