"สมคิด"มอบนโยบายสภาพัฒน์ สั่งแก้ปัญหาทุกด้าน หวังขยับอันดับศักยภาพการแข่งขันของไทยให้ดีขึ้นสูงกว่าอันดับที่ 20 ชี้หลายประเทศเจอปัญหาส่งออกเหมือนกัน จึงต้องเน้นเศรษฐกิจชุมชน - ท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก รับยังต้องแข่งกับสิงคโปร์ - เวียดนาม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมมอบนโยบายผู้บริหารสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ว่า หลังจาก ไทยถูกจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของจาก IMD ประจำปี 2562 สูงขึ้น 5 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 25 แล้วรัฐบาลต้องรักษาระดับความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น โดยเฉพาะไทยได้แซงเกาหลีใต้ซึ่งอยู่อันดับ 26 โดยขณะนี้ทุกประเทศมีปัญหาการส่งออกเหมือนกัน จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ปัญหา ICAO ให้ใบแดงเรื่องการบินและปัญหา IUU ในช่วงที่ผ่านมา ไทยก็ได้แก้ปัญหาจนต่างชาติให้การยอมรับ ซึ่งหากไทยเร่งรัดปฏิรูปหลายด้าน เชื่อว่าความสามารถในการแข่งขันต้องอยู่ต่ำกว่าอันดับ 20 ในปี 2563 ทั้งนี้ต้องใช้โอกาสส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน หลังคาดว่าการลงทุนมีโอกาสขยายตัวเพิ่มจาก 3.9% เป็น 4.5% การลงทุนภาครัฐมีโอกาสไปได้สูงมาก จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ เพื่อผลักดันให้ขีดความสามารถแข่งขันขยับสูงขึ้นได้ และต้องการให้ สศช.ปรับโครงสร้างขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กว้างมากขึ้น เพื่อส่งเสริมไปยังกลุ่มภาคเกษตรและการท่องเที่ยว ด้านการค้า - ท่องเที่ยวไทยจะแข่งขันกับสิงคโปร์ได้หลายด้าน จากนี้ต้องการให้ประชุมหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกหลายด้าน ทั้งส่งเสริมการค้าชายแดน ผลักดันการท่องเที่ยว เมื่อรัฐบาลได้ลงทุนรถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ เส้นทางคมนาคมครอบคลุม จะทำให้การเดินทางของคนไทยและต่างชาติไปยังแหล่งท่องเที่ยวปลายทางในเมืองรองและเมืองหลักคล่องตัวขึ้น ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์ประชารัฐในทุกชุมชน ต้องผลักดันให้สุดทางเพื่อให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รองรับการค้าขาย ค้นคว้าหาความรู้ การใช้อินเตอร์เน็ตอำนวยความสะดวกทุกด้าน ไทยจึงต้องเร่งรัดขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานดิจิ ทัล โดยเฉพาะเครือข่าย 5G เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน " ทางเวียดนามก็พัฒนาไปเร็วมาก ต้องหาทางส่งเสริม - เพิ่มอำนาจซื้อให้กับรายย่อยในต่างจังหวัด ผ่านการสร้างเศรษฐกิจชุมชน ยอมรับว่าการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับในยุคนี้คงยากขึ้น จึงขอให้ สศช.เป็นเสาหลักสำคัญในการดูแลเศรษฐกิจ รัฐบาลยังต้องการเร่งรัดพัฒนาบุคลากรคุณภาพ รองรับการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ด้านกระทรวงต่างๆ เสนอของบประมาณลงทุนต้องคัดเลือกให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ " นายสมคิดกล่าว
|