ห้องเม่าปีกเหล็ก

AH หุ้นเล็ก แต่ปันผลแจ๋ว !

โดย STEELBAR
เผยแพร่ :
195 views

AH หุ้นเล็ก แต่ปันผลแจ๋ว !

คาดปี 67-68 ให้ผลตอบแทนสูง 7% ต่อเนื่อง

.

หุ้นปันผลวันนี้ Wealthy Thai มีอีกหนึ่งหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากปันผลสูงในระดับสูงมาฝาก นั่นคือ AH หรือ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ที่ล่าสุดพึ่งประกาสจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 ออกมา และนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าในปี 2567-2568 บริษัทจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในระดับสูงถึง 7% ต่อเนื่อง

.

โดย AH เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์, ศูนย์บริการหลังการขาย, ธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ, และ IoT (Internet of Things) ซึ่งล่าสุดได้ประกาศผลประกอบการปี 2566 ออกมา โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,610.4 ล้านบาท ลดลง 11.69% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,824 ล้านบาท และจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิสำหรับงวด 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2566 ในอัตรา 0.95 บาท

.

ขณะเดียวกันยังมีแนวโน้มที่ AH จะให้ Dividend Yield ในระดับสูงถึง 7% ต่อเนื่องในปี 2567-2568 โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในปี 2567 ที่ 1.66 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 7% และในปี 2568 คาดการณ์ว่าจะจ่ายปันผลที่ 1.73 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 7.3%

.

ในส่วนของทิศทางการดำเนินงานฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 1,768 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยคาดธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จะได้แรงหนุนจากธุรกิจใหม่ จากกิจการร่วมทุน Purem AAPICO ในการผลิตชิ้นส่วนระบบควบคุมไอเสีย ซึ่งมี 2 โรงงานในเมืองราวังประเทศมาเลเซียและจังหวัดระยองประเทศไทย รวมกำลังการผลิต 2 แห่งกว่า 700,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งคาดรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 1,700 ล้านบาท

.

ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการเริ่มธุรกิจตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 ซึ่งมีการบันทึกต้นทุน แต่ยังไม่มีรายได้เข้ามา ทำให้ในปี 2566 รับรู้ผลขาดทุน 30 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 คาดพลิกกลับมามีกำไร 102 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการที่บริษัทขายบริษัทร่วม SACL โดยคาดส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมจะปรับลดลง 28% จากปีก่อน เหลือ 275 ล้านบาท

.

สำหรับคำแนะนำ “ซื้อ” ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้วในปี 2567 โดยประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม คาดผลประกอบการทรงตัวตามอุตสาหกรรม ขณะที่ระยะยาวคาดได้ประโยชน์จากการมาของธุรกิจ EV ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ ISUZU ประกาศแผนการลงทุนใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตกระบะ EV คงมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 39.90 บาท

 

 

 


STEELBAR