ห้องเม่าปีกเหล็ก

ก.ล.ต.ประสานแบงก์ชาติ ปฎิรูปกฎเกณฑ์กำกับใหม่ คาดเริ่มใช้ ต.ค. นี้

โดย Financial Investor
เผยแพร่ :
71 views

ก.ล.ต.ประสานแบงก์ชาติ ปฎิรูปการออกกฎเกณฑ์กำกับดูแลใหม่ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจเอกชนมากขึ้น คาดแล้วเสร็จ ต.ค.นี้



นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บอกว่า ขณะนี้ทาง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการดำเนินงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อปฎิรูปกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลภาคธุรกิจฉบับใหม่ ให้สอดคล้องกับการทำธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงธุรกิจภาคเอกชนที่ทำธุรกิจในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบส่วนใหญ่เล็งเห็นว่ากฏเกณฑ์บางข้อเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่เหมาะสมและไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเซ็นสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ให้เข้ามาดูแลกระบวนให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนและบังคับใช้ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้


 "ตอนนี้เราอยู่ระหว่างดูอยู่ว่า กฎหมายตรงไหนที่จะมีการปรับปรุงอีกหรือไม่ ซึ่งการจะออกกฎเกณฑ์ต่างๆ มา ก็ต้องดูว่าจำเป็นหรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่ จากการออกกฎเกณฑ์ปัจจุบันเป็นอุปสรรคหรือเอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจอย่างไร โดยเป็นเรื่องที่เราและแบงก์ชาติ กำลังเริ่มทำอยู่ และได้มีการจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศคนเดียวกัน แต่การทำงานก็ต่างฝ่ายต่างทำ แบงก์ชาติก็ดำเนินการในส่วนของแบงค์ชาติ ก.ล.ต.ก็ทำในส่วนของก.ล.ต. ซึ่งทางปรึกษาก็จะเข้ามาวางกระบวนการให้กับสองหน่วยงาน และอาจจะมีการเชิญทางก.ล.ต เข้าไป Workshop ด้วย" จากความคิดเห็นของ เลขาธิการ ก.ล.ต.
      
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (หุ้นIPO) ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์


คุณรพี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวจนถึงวันที่ 28 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงข้อเสนอแนะในเดือน พ.ค. และเมื่อชัดเจนแล้วคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า โดยวัตถุประสงค์การปรับปรุงหลักเกณฑ์นี้ก็เพื่อการจัดสรรหุ้น IPO ไปถึงผู้ลงทุนทั่วไปในวงกว้าง เพราะในอดีตคำนิยามของผู้มีอุปการะคุณยังไม่ชัดเจนทำให้การจัดสรรหุ้นอาจกระจุกตัวเพียงเฉพาะผู้ลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจนทำให้ควบคุมปริมาณหุ้น IPO ได้ง่ายและนำไปสู่การสร้างราคาหุ้น


ก.ล.ต. นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงและจัดทำเป็นร่างประกาศ และเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง โดยประเด็นที่ได้ปรับให้มีความเหมาะสมในทางปฏิบัติมากขึ้น อาทิ ปรับปรุงนิยามของ “ผู้มีอุปการคุณ” เป็น บุคคลที่สร้างประโยชน์อย่างต่อเนื่องหรือชัดเจนให้กับบริษัท กำหนดสัดส่วนการจัดสรรให้ผู้มีอุปการคุณไม่เกิน15% ของหุ้น IPO โดยเมื่อรวมกับส่วนที่จัดสรรให้ RP และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยแล้วไม่เกิน 25% ของหุ้น IPO

 

นอกจากนี้ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมีหน้าที่จัดทำรายชื่อผู้มีอุปการคุณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ และนำส่งรายชื่อและระบุลักษณะการมีอุปการคุณต่อสำนักงานพร้อมกับรายงานผลการขาย รวมถึงการแก้ไขระยะเวลาการรายงานผลการขายหุ้น IPO จากเดิมที่เสนอภายใน 10 วันเป็นภายใน 30 วัน นับแต่วันปิดการเสนอขายหุ้น เป็นต้น

 ที่มา : http://www.moneychannel.co.th/


Financial Investor