เช้านี้ SET Index แตะ 1,661.00 จบ Rebound ปิดโอกาสทะลุแนวต้าน 1,720.00

เช้านี้ SET Index แตะ 1,661.00 จบ Rebound ปิดโอกาสทะลุแนวต้าน 1,720.00 จุด

  และแล้วก็มาถึงวันๆ ที่ SET Index ต้องลงรอบใหญ่อีกครั้ง และถือเป็นการปิดรอบการ Rebound อย่างสมบูรณ์ แม้จะเกิดการ Rebound ระยะสั้น เป็นเพียงการขึ้น เพื่อหาจังหวะเทขาย ในขาลง

  แม้ว่าตอนเย็น SET Index จะกลับมาปิดเหนือ 1,661.00 จุด แต่สัญญาณ Confirm ที่ SET Index มาแตะ ณ จุดนี้ ถือเป็นวันแรกที่ SET Index มีสัญญาณ กลับเป็นขาลงรอบใหญ่ อีกครั้ง นับจากการเกิด Oversold ของกราฟ Week และมีการช้อนซื้อหุ้น ของนักลงทุนสถาบันในประเทศ นักลงทุนต่างประเทศ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนรายย่อย

  สัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสทดสอบ 1,650.00 บริเวณนี้ จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในระยะสั้น แต่ไม่ใช่ภาพการ Rebound เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ

  อย่างไรก็ตาม หาก SET Index ไม่ไปยืนเหนือ 1,748.00 จุด ตลาดยังคงเป็น Down Trend แต่บริเวณ 1,700.00 - 1,748.00  จุด เป็นภาพการ Sideway Down และมีโอกาสขึ้นลงในกรอบ 50 จุด  เมื่อหลุด 1,700.00 ภาพการ Sideway Down และการขึ้นแรงๆ เริ่มอ่อนกำลังลง  อีกทั้ง SET Index ลงมาแตะ 1,661.00 จุด ยืนยันการตัั้งหน้าตั้งตา ลงอีกครั้งครับ

 และตลาดเป็นขาลง นับตั้งแต่ทำ All Time High ที่ 1,852.51 จุด แต่มีการ Rebound จากจุด Oversold ตามสัญญาณ Confirm บริเวณ 1,720.00 ถือเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง และ SET Index ไม่ควรทะลุและยืนเหนือจุดนี้ได้  อีกทั้งไม่ควรที่จะสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1,748.00 จุด แต่ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากของกองทุน ทำให้เกิดภาพ Double Bottom ระยะสั้น ของการ Rebound ทำให้นักลงทุนต่างชาติตาม  รายย่อยช้อนซื้ออย่างบ้าคลั่ง แต่ผลคือ มันไม่ใช่อ่ะ  ฝรั่งจึงเทขายอย่างต่อเนื่อง ฝรั่งบอก "You will walk alone"  และตลาดก็กลับมาอยู่ใน Mode ที่มันควรจะเป็นอีกครั้งครับ

 กองทุน งง ปัจจัยพื้นฐานดี  เศรษฐกิจไม่ได้แย่ หุ้นทำกำไรได้ดี อัตราเงินเฟ้อในระเทศต่ำ เงินทุนสำรองของประเทศติดท็อปอันดับต้นๆ ของโลก  แม้ตัวเลขส่งออกจะออกมาติดลบ อีกทั้งใกล้เลือกตั้งแล้ว Down Size มันน่าจะน้อยสิ   ไม่ๆๆๆ  การขึ้น ลง ของตลาดไม่ได้อาศัยเพียงปัจจัยเหล่านี้ มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าข่าวสงครามการค้าอเมริกา-จีน จะรับรู้มาสักระยะ และไม่น่าส่งผลตลาดนะ ไม่หรอก การส่งผลเป็นแบบ Long Term ต่างหาก ที่จะเห็นตามมา การร่วงของดัชนี Dow Jones ภายใน 5 - 8 สัปดาห์นี้ แม้มีการ Rebound ก็จะเป็นภาพระยะสั้น เพราะดัชนี Dow Jones เป็นขาลงรอบใหญ่แล้ว  ดังนั้นภาพบวก ในการเลือกตั้ง ที่จะหนุนให้ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น มีน้ำหนักน้อยมากๆ ครับ

 อีกทั้งตลาดที่ใหญ่ ไม่ว่านักลงทุนกลุ่มไหน ก็ไม่สามารถ Control ตลาดได้  และไม่ว่าปัจจัยพื้นฐานจะดีขนาดไหน ตัวเลขสถิติออกมาดีสักเท่าไหร่ ผลประกอบการของหุ้นแต่ละตัวจะเติบโตอย่างไร นักลงทุนมองภาพบวกกับตลาดดีแค่ไหน  ตลาดยังคงมีจุดยืน เหมือนๆ กันคือ มีจุด Top และ Bottom ของรอบใหญ่ ของมันเสมอ และมีความสัมพันธ์ต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ เศรษฐกิจในระหว่างประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลก ดัชนี Dow Jones เม็ดเงินที่เข้า-ออก ในตลาดที่เกี่ยวข้องกัน บางทีมันอาจทำให้นักลงทุน มองว่า เป็นการลง อย่างไม่มีเหตุผล  แต่ด้วยตัวของ SET Index หรือของตลาดหนึ่งๆ การขึ้น ลง ของมัน มีเหตุผลเสมอครับ

 อยู่ที่นักลงทุนจะมองภาพออกมาอย่างไร และเข้าใจตลาดได้มากน้อยแค่ไหน ซื้อในจุดที่ควรซื้อ ขายในจุดที่ควรขายหรือไม่ ดังนั้นแล้ว ท่านนักลงทุน ต้องมองตลาดในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง มองตามที่ตลาดเป็น มากกว่าภาวนาให้ตลาดเป็นไปตามที่คิดครับ

 กอรปกับกราฟแท่งเทียนมันได้สะท้อนทุกอย่างไว้หมดแล้วจริงๆ มันสะท้อนทุกปัจจัยที่มาเกี่ยวข้อง สะท้อนถึงจิตวิทยาเศรษฐศาสตร์การลงทุน  จิตวิทยาแนวรับ แนวต้าน ความโลภ ความกลัว พฤติกรรมของ Player (Trader) ในตลาด และจำนวนเม็ดเงินในตลาด

ขอบคุณครับ