โดย Khal
เผยแพร่ : 
174 viewsเปิดกำไร Q2/65 ของ 6 บิ๊กบจ.TIDLOR - KEX - PSH - BJC - AWC - OSP
บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ทยอยประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/65 และครึ่งปีแรกออกมาไม่ขาดสาย รอบนี้ถึงคิวของ 6 หุ้นใหญ่อย่าง TIDLOR - KEX - PSH - BJC - AWC - OSP ซึ่งทางสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้รวบรวมมาให้ดูว่า ผลประกอบการแต่ละบริษัท ประทับใจนักลงทุนมากน้อยเพียงใด
.
* TIDLOR กำไรเฉียด 1 พันลบ.
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/65 มีกำไร 981.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.2% จากจำนวน 777.5 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายรับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อรวม การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม(ค่าฟี) และ บริการ ซึ่งสัดส่วนหลักมาจากธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต และ ประกันวินาศภัย รวมถึงการลดลงของต้นทุนทางการเงิน
.
ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/65 เท่ากับ 3,616.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9% จากจำนวน 2,918.1 ล้านบาทสำหรับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยรับรวมยังคงปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยสำคัญมาจากความสำเร็จของ “บัตรติดล้อ” ที่เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ ยังคงระดับการให้บริการที่เต็มประสิทธิภาพทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และ โมบายแอพพลิเคชั่น ทั้งสะดวกและปลอดภัย แม้ในยามช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19
.
KEX ต้นทุนพุ่ง ขาดทุน 732 ลบ.
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 ขาดทุนสุทธิ 732 ล้านบาท ลดลง 318.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 335 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกของปี 65 บริษัทขาดทุนสุทธิกว่า 1,223 ล้านบาท หรือลดลง 284% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 638 ล้านบาท
.
ดยมีสาเหตุมาจากบริษัทได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านรายได้ อันเนื่องมาจากจำนวนวันทำการที่ลดน้อยลงในเดือนเม.ย.และพ.ค.65 รวมถึงอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงในไตรมาส Q2/65 และแรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากสถานการณ์ตลาดแรงงานที่ตึงตัว ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการคงไว้ซึ่งคุณภาพการให้บริการและกำลังการรองรับปริมาณพัสดุ ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 4,283.0 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ปริมาณพัสดุยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 35.7%
.
* PSH ยอดขายตก ทำกำไรนิ่ง
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีกำไร 429.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 427.46 ล้านบาท โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินกิจการโรงพยาบาลวิมุตในเดือนพ.ค. 64 ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีกำไร 981.55 ล้านบาท ลดลง 5.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 1,033.60 ล้านบาท
.
โดยไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 5,389 ล้านบาท ลดลง 1,000 ล้านบาท หรือลดลง 15.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 6,389 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 11,370 ล้านบาท ลดลง 1,919 ล้านบาท หรือลดลง 14.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 13,289 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานที่ลดลงเนื่องจากยอดขายที่ลดลง โดย 6 เดือนแรกอยู่ที่ 11,686 ล้านบาท ลดลง 2,479 ล้านบาท หรือ ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายที่ลดลงจากกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ 1,729 ล้านบาท และอาคารชุด 816 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 66 ล้านบาท
.
* BJC กำไรแจ่มรับศก.ฟื้น - ปันผลอีก 0.15 บ.
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/65 มีกำไร 1,203.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 64 ทีมีกำไร 822,41 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนปี 65 มีกำไร 2,449.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.5% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 1,835.06 ล้านบาท
.
โดยรายได้รวมในไตรมาส 2/65 เท่ากับ 41,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,289 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.6% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมเพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักจากยอดขายรวมและรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ในขณะที่รายได้อื่น เพิ่มขึ้น 324 ล้านบาท 11.1% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
.
ท้้งนี้ คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลระหว่างกาลงวด 1 ม.ค.-30 มิ.ย. เป็นเงินสดจำนวน 0.15 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 24 ส.ค.65 วันที่จ่ายปันผล 8 ก.ย. 65
.
* เปิดประเทศ หนุน AWC พลิกมีกำไร
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 พลิกมีกำไร 776.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 491.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 198.48 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกของปีนี้มีกำไร 1,421.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 279.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 792.48 ล้านบาท
.
สำหรับไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 3,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.4% จากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การออกมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งจากนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ ขณะที่ครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 5,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
* OSP กำไรวูบ เหตุเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านกลยุทธ์
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปี 65 มีกำไรสุทธิ 603.65 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 819.82 ล้านบาท ลดลง 26.23% งวด 6 เดือน ปี 65 มีกำไรสุทธิ 1,353.36 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,823.82 ล้านบาท ลดลง 25.8%
.
ในไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้จากการขายที่ 7,184 ล้านบาท เติบโต 3.9% จากปีก่อน จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และกลุ่มอื่น ๆ ส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศลดลงเนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่โอสถสภาเดินหน้ากลยุทธ์ผลักดันสินค้ากลุ่มพรีเมียม ในขณะที่ผู้เล่นรายอื่นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาอย่างต่อเนื่อง
.
คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 24 ส.ค. 65
***********************************
