โดย stock-news
เผยแพร่ : 
67 views
หากกล่าวถึงโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ถือเป็นโปรเจคเพื่อพัฒนา 3 จังหวัดภาคตะวันออกเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ดีและทันสมัยที่สุดในอาเซียน คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง เป็นการต่อยอดจากอีสเทิร์นซีบอร์ดเป็นซูเปอร์อีสเทิร์นซีบอร์ด พัฒนาให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยพัฒนาขึ้น และยกระดับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศให้ขึ้นไปถึงระดับร้อยละ 5.0 ได้นั่นเอง
ทั้งนี้รัฐบาลวางแผนการลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ขยายมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ขยายท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด พัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท ตลอดโครงการภายใน 10 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างน้อย 1.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปี โดยลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 500,000 ล้านบาท โครงสร้างพื้นฐาน 400,000 ล้านบาท การสร้างเมืองใหม่ โรงพยาบาล. โรงเรียน ที่อยู่อาศัย 400,000 ล้านบาท การท่องเที่ยวคุณภาพ เชิงสุขภาพ 200,000 ล้านบาท
หากมองผลดีต่อภาพการลงทุนที่จะส่งต่อตลาดหุ้น แน่นอนว่าการลงทุนที่มหาศาลในหลากหลายอุตสากหรรม ดังนั้นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ ก็คงมีไม่น้อย แต่ที่น่าจะเห็นได้ชัดก็น่าจะเป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม นั่นเอง
บล.ทรีนีตี้ แนะนำธีมการลงทุนเลือกโฟกัสการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้อานิสงส์ จาก EEC ได้แก่ AMATA, ROJNA, WHA เนื่องจากที่เราประเมินว่า SET Index อยู่ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนต่ำ
...อย่างไรก็ตามจากโปรคเจคที่มีการลงทุนในหลายปีและเงินลงทุนเป็นจำนวน ยังคงกลุ่มหุ้นที่น่าจะได้รับผลดีจากโครงการพัฒนา EEC ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและสุขภาพ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ...
ที่มา : efinanceThai TV
