EA ก้าวแรกในการหาลูกค้า EV นอกกลุ่ม
ประเด็นสำคัญ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. EA จัดการประชุมนักวิเคราะห์ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนักวิเคราะห์ฝั่งขายและผู้จัดการกองทุนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ประเด็นสำคัญจากผู้บริหาร ได้แก่
1) EA ประสบความสำเร็จในการพัฒนาน้ำมันดีเซลชนิด green diesel ซึ่ง EA มีแผนที่จะพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพในอนาคต
2) ผู้บริหารระบุว่าตลาดในประเทศมีรถบรรทุกประมาณ 1.2 ล้านคัน และมีรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ 7หมื่นคันต่อปี โดย EA มีแผนที่จะรุกตลาดดังกล่าวด้วยรถบรรทุกไฟฟ้า (E-truck)
3) EA อยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่จาก 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เป็น 4 GWh และยังมีแผนที่จะผลิตผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ใหม่ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมเฟอร์โรฟอสเฟต (LFP)
4) EA ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 จะเติบโตกว่า 50% YoY ด้วยงบลงทุน (capex) ปี 2566 ที่ 1.1 หมื่นลบ.
มุมมองของเรา ในมุมมองของเรา ภาพรวมของการประชุมเป็นไปในเชิงบวก เนื่องจากผู้บริหารได้อัปเดตความคืบหน้าของธุรกิจ E-truck ซึ่งมีการส่งมอบให้กับลูกค้าภายนอก (ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่ม) จำนวน 300-400 คัน ขณะที่ผู้บริหารคงประมาณการยอดขายรถ E-truck ที่ประมาณ 3,000 คันให้กับ TSB ในปีนี้
แนวโน้มไตรมาส 2/2566 เราคาดว่ากำไรไตรมาส 2/2566 จะทรงตัว QoQ ตามการคาดการณ์ของผู้บริหารเกี่ยวกับปริมาณการขาย E-bus ไตรมาส 2/2566 ที่จะทรงตัว QoQ อย่างไรก็ตาม กำไรน่าจะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจาก 1) จะมีปริมาณการขาย E-bus 700-800 คันในไตรมาส 2/2566 เทียบกับที่ไม่มีการขายเลยในไตรมาส 2/2565 และ 2) ค่า Ft ที่คาดสูงขึ้นในไตรมาส 2/2566
คงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 64.75 บาท การผลิตแบตเตอรี่มีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในระยะยาว
