ผ่าอนาคต PTTEP กำไรปีนี้อาจสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท แม้เจอปัญหาท่อก๊าซที่ซอติก้ารั่วแต่กระทบไม่มาก

หลังจากที่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน จำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 20,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 188% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/64 ซึ่งเป็นผลจากราคาขาย-ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันลดลง


ทั้งนี้นักวิเคราะห์ระบุว่าผลกำไรสุทธิที่ออกมานั้นเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในระดับ 20,000 ล้านบาท และยังระบุอีกว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ของ PTTEP จะยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามทิศทางราคาพลังงานที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และจะส่งผลให้ทั้งปี 65 ทาง PTTEP จะมีกำไรสุทธิเกือบ 7 หมื่นล้านบาท


โดย บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) รายงานว่าคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติจากผลกระทบที่ล่าช้า ต่อราคาน้ำมันดิบ และจะมีปริมาณขายที่สูงขึ้นกว่าในครึ่งปีแรก อีกทั้ง เราเชื่อว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากกิจกรรมป้องกันความเสี่ยง (hedging loss) ที่ต่ำลง


ดังนั้นคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ไว้ที่ 6.91 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% จากปีก่อนโดยมีปัจจัยจากราคาขายน้ำมันดิบเฉลี่ยดูไบที่ 105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 65 และคาดว่าราคา Gas ASP จะอยู่ที่ 6.50/mmbtu ซึ่งประเมินปริมาณขายเฉลี่ยจะสูงขึ้นเป็น 467,000 บาร์เรลต่อวัน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 190 บาท ยังมีมุมมองว่าPTTEP จะยังคงได้ประโยชน์จากราคาน้ำมีนดิบที่อยู่ระดับสูงต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลัง

ท่อส่งก๊าซรั่วกระทบไม่มาก

สำหรับประเด็นรอยรั่วท่อส่งก๊าซโครงการซอติก้า นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อ PTTEP ไม่มาก โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินว่า ประเด็นรอยรั่วท่อส่งก๊าซโครงการซอติก้านั้นจะกระทบต่อปริมาณขายในงวดไตรมาส3/65 ของ PTTEP แค่เพียง 2% เท่านั้น และคงคำแนะนำ Trading Buy และราคาเป้าหมายที่ 173 บาท โดยปัจจัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคาน้ำมัน


ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส ( ประเทศไทย ) จำกัด เปิดเผยว่าโครงการซอติก้าในเมียนมาเกิดรอยรั่วและต้องซ่อมแซมราว 2 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ปริมาณก๊าซที่ส่งจากซอติก้ามาไทยหยุดชั่วคราว กระทบกับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซจากแหล่งนี้ในการผลิตไฟฟ้า เช่น EGAT, RATCH ซึ่งทาง PTT จะต้องจัดหาก๊าซจากแหล่งอื่นเข้ามาทดแทน เช่น การนำเข้าก๊าซ LNG เข้ามา เป็นต้น สำหรับทาง PTTEP คาดว่าผลกระทบต่อกำไรสุทธิทั้งปี 65 จำกัดมาก


สำหรับคำแนะนำการลงทุน ระยะสั้นราคาหุ้นมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบลดลงแรง ขณะเดียวกันการเข้าซื้อรอบใหม่จึงเน้นเมื่อราคาอ่อนตัว โดยฝ่ายวิจัยฯ DBS ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 210 บาท