Set Index ปรับตัวขึ้นมาจากจุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วที่ 1,599.10 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 มาทําจุดสูงสุดในรอบนี้ที่ 1,748.15 จุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 หรือมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,673.62 จุด
Set Index ปิดที่ 1,670.31 จุด ในภาคเช้าวันนี้ วันที่ 8 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
เพราะฉะนั้น ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ตรึงกําลังกันระหว่าง " หรั่ง " ฝ่ายหนึ่ง และ " กองกับเม่า " อีกฝ่ายหนึ่ง โดยถ้า " หรั่งขาย " หุ้นไทยก็น่าจะลงต่อ แต่ถ้า " หรั่งซื้อ " หุ้นไทยก็น่าจะกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นได้ โดยมีจุดตํ่าสุดอยู่ที่ 1,647.49 จุด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
สําหรับประเด็นที่จะทําให้ " หรั่งซื้อหรือขาย " แล้วจะทําให้หุ้นไทย " ขึ้นหรือลง " มีดังนี้ คือ :
1) กรณีที่จะทําให้ " หรั่งขายและหุ้นไทยลง " มีดังนี้ คือ :
1.1) สงครามการค้า : การปรับขึ้นภาษีสินค้าที่เหลือจากจีนอีก 300,000 ล้าน USD จาก 0% เป็น 10%, จาก 10% เป็น 25% และการห้ามนําเข้าสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐอเมริกาทั้งหมดในอนาคต
1.2) สงครามการเงิน : ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปที่ 7.5 หยวน ต่อ USD หรือ 8.0 หยวน ต่อ USD ในอนาคต
2) กรณีที่จะทําให้ " หรั่งซื้อและหุ้นไทยขึ้น " มีดังนี้ คือ :
2.1) การปรับลดดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในการประชุม FOMC ดังนี้ คือ :
2.1.1) วันที่ 18 กันยายน ปี พ.ศ 2562
2.1.2) วันที่ 30 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
2.1.3) วันที่ 11 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562
2.2) การปรับลดดอกเบี้ย Fed Fund Rate เป็น 0.00% ในปี พ.ศ 2563
และข้อมูลที่เชื่อถือได้ คือข้อมูลโดยตรงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โดยผ่านทางทวีตเตอร์ที่ @realDonaldTrump เท่านั้น นอกนั้นเป็นข้อมูที่ เป็นเท็จ ข้อมูลปลอม ข้อมูลโกหกหลอกลวง และข้อมูลที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง ทั้งนั้นน่ะ คร๊าบ พี่น้อง!
หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/