ห้องเม่าปีกเหล็ก

ปี 65 ฝรั่งซื้อหุ้นไทยสูงเป็นประวัติการณ์ เงินไหลเข้าหุ้นตัวไหนมากสุด?

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
252 views

ปี 65 ฝรั่งซื้อหุ้นไทยสูงเป็นประวัติการณ์ เงินไหลเข้าหุ้นตัวไหนมากสุด?

โบรกฯ เผยเงินทุนไหลเข้าหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการ กว่า 1.46 แสนล้านบาท มองแนวโน้มยังไหลเข้าต่อเนื่อง เหตุศก.ไทยเริ่มฟื้นตัว ชี้ตลาดหุ้นไทยถึงสิ้นปียัง Outperform พร้อมเปิดสถิติ ปีนี้ต่างชาติซื้อหุ้นตัวไหนมากสุด

.

*** ASPS เผยเงินต่างชาติไหลเข้า SET มากสุดเป็นประวัติการณ์

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุว่า แม้ตลาดจะเผชิญกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จีน-ไต้หวัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค.65 บวกกับความเสี่ยง Recession ของประเทศฝั่งพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐ ยุโรป แต่อย่างไรก็ตามประเทศฝั่งกำลังพัฒนาเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หรือ GDP Growth ที่ยังเป็นบวก จึงทำให้เป็นเป้าหมาย Flow ต่างชาติในการลงทุน โดยพบว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันต่างชาติซื้อหุ้นไทยไปแล้วกว่า 1.46 แสนล้านบาท มากสุดเป็นประวัติการณ์

.

ขณะที่ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ถึงปัจจุบันมีเงินต่างชาติซื้อสุทธิในภูมิภาคประมาณ 1,566 ล้านดอลลาร์ โดยเกาหลีใต้ถูกซื้อสุทธิ 1,534 ล้านดอลลาร์ อินโดนีเซีย 176 ล้านดอลลาร์ และไทย 826 ล้านดอลลาร์

.

*** บล.ทิสโก้ มองตลาดหุ้นไทยจนถึงสิ้นปียัง Outperform

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด มองว่า แนวโน้มต่างชาติยังคงเป็นไหลเข้าสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยคาดว่าจะประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากสถานการณ์ต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย ทั้งเรื่องเงินเฟ้อที่เริ่มมีทิศทางที่ลดลง ปัจจัยต่างๆที่เคยเป็นข้อกังวลของนักลงทุนเริ่มลดลง และนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากปัจจัยต่างๆได้สะท้อนไปที่ราคาหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงก่อนหน้านี้

.

ขณะที่ไทย ยังมีจุดขายโดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวที่ทำให้ยังมีแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า และล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าในการประชุมที่เหลือของปีนี้อีก 2 ครั้ง คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ปัจจัยดังกล่าวหากมองไปข้างหน้าจากนี้จนถึงสิ้นปีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะ Outperform กว่าหลายๆตลาดจากการที่เศรษฐกิจไทยมีภาวะฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น และค่าเงินบาทก็มีผลในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ

.

โดยเงินบาท มองว่า หลังจากนี้น่าจะค่อยๆแข็งค่าขึ้นบ้าง จากทิศทางการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ทำให้มองว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

.

ส่วนปัจจัยเสี่ยงในระยะต่อไปที่ยังต้องติดตาม คือ ในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ยังเป็นเรื่องใหญ่ แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันที่เริ่มมีทิศทางลดลง และคาดว่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ยังถือว่าเป็นใหญ่ที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไปเพราะหากเงินเฟ้อสูงขึ้นในระยะต่อไป อาจทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเกินกว่าที่ตลาดคาดหมาย และอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้

 

 

***********************************


98 Degree