PPPGC เจ้าของธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ครบวงจร
รายเดียวในไทย…กำลังจะเข้าตลาดหุ้น

.
เจอกันอีกเช่นเคยในทุกวันอังคาร...กับคอลัมน์ Next IPO ซึ่งในครั้งนี้ทีมข่าว Wealthy Thai ได้มีอีกหนึ่งหุ้น IPO มาฝากนักลงทุน อย่าง บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPPGC ซึ่งถือเป็นบริษัทร่วมทุนบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นก่อน IPO ที่ 40% โดยภายหลัง IPO จะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 30%
.
ทั้งนี้ PPPGC เกิดจากการร่วมทุนระหว่างกลุ่มผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ของประเทศไทย 3 บริษัท ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเข้าด้วยกัน ประกอบด้วยบริษัท ทีซีจีโฮลดิ้ง จำกัด หรือ TCG หนึ่งในผู้นำในการผลิต และสกัดน้ำมันปาล์มดิบด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี
.
รวมทั้ง PTG หนึ่งในผู้นำด้านการบริการในธุรกิจพลังงานครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำ และบริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด หรือ RD หนึ่งในผู้นำในการเพาะกล้าปาล์มน้ำมันรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการปลูกปาล์มด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
.
โดย PPPGC เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน ได้แก่ น้ำมันไบโอดีเซล (B 100) น้ำมันปาล์มโอเลอิน ผลิตภัณฑ์โอเลโอเคมีคัล เช่น กลีเซอรีนบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่น ๆ โดยโรงงานของบริษัทเป็นโครงการในรูปแบบปาล์มครบวงจร หรือ “ปาล์มคอมเพล็กซ์” แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่นำทุกอุตสาหกรรมในห่วงโซ่ของปาล์มน้ำมันมารวบรวมไว้ในแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันของประเทศ
.
พร้อมวางแผนระบบโลจิสติกส์ที่เอื้อต่อการขนส่งและการส่งออกไปต่างประเทศ รวมถึงการนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูงมาใช้ในการผลิตเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองภายใต้ระบบมาตรฐานสากล โดยได้เริ่มก่อสร้างในปี 2558 และเปิดดำเนินการผลิตอย่างเต็มรูปแบบในปี 2562 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1,000 ไร่ ของอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
.
ประกอบกับเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้ประกอบการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ชนิดน้ำมันไบโอดีเซลประเภท B100 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 จากกระทรวงพลังงาน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 โรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซลของบริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม 520,000 ลิตรต่อวัน
.
อย่างไรก็ตามจำนวนการผลิตที่ได้มีการยื่นต่อกรมธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 630,000 ลิตร ซึ่งสามารถที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 110,000 ลิตรต่อวันในอนาคต ส่วนโรงงานผลิต RBDPL มีกำลังการผลิตรวม 150 ตันต่อวัน และโรงงานกลั่นกลีเซอรีนบริสุทธิ์มีกำลังการผลิต 45 ตันต่อวัน
.
ขณะที่วัตถุประสงค์ของการระดมทุน เพื่อใช้ในโครงการขยายห่วงโซ่ธุรกิจปาล์มน้ำมันไปยังธุรกิจโอลิโอเคมีคัล, โครงการขยายการผลิตและการบรรจุ RBDPL (น้ำมันปาล์มโอเลอิน), ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวกับธนาคาร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
.
สำหรับโครงสร้างรายได้ PPPGC ในรอบงบปี 2564 ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล มีสัดส่วนรายได้ 72.02% ตามด้วยธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม มีสัดส่วนรายได้ 26.33% ถัดมาธุรกิจผลิตและจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ มีสัดส่วนรายได้ 1.58%
.
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไบโอดีเซลมีรายได้ประกอบด้วย การจำหน่ายไบโอดีเซล (B100) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและผลพลอยได้ เช่น กลีเซอรีนดิบ และ Pitch (Fatty acid oil)
.
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มมีรายได้ประกอบด้วย 1.การจำหน่าย RBDPL ให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม 2.การจำหน่าย RBDPL ให้กับกลุ่มลูกค้าที่นำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปบรรจุ (Repack) 3.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ RBDPL ภายใต้ตราสินค้า “มีสุข” ของบริษัทฯ 4.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ (CPKO) และน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และ5.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป เช่น กรดไขมันปาล์ม (PFAD) น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBD-PO) และผลพลอยได้อื่นๆ
.
และธุรกิจผลิตและจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ มีรายได้จากการจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร เคมีภัณฑ์ ยา และเครื่องสำอาง เป็นต้น
.
นอกจากนี้ปัจจุบัน ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการที่จะต่อยอดการเติบโต ทั้ง 1.โครงการขยายห่วงโซ่ธุรกิจปาล์มน้ำมันตั้งแต่ธุรกิจการปลูกปาล์มน้ำมัน (“Palm Plantation”) ไปยังธุรกิจโอเลโอเคมีคัล (“Oleochemical”) จากปาล์ม อาทิเช่น กรดไขมัน (“Fatty Acid”) เป็นต้น เพื่อครอบคลุมห่วงโซ่ธุรกิจปาล์มน้ำมัน และรองรับการเติบโตของการบริโภคปลายน้ำ
.
2.โครงการศึกษาธุรกิจผลิต และจำหน่ายน้ำมันกรีนดีเซล หรือการนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้วและน้ำทิ้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม (Palm Oil Mill Effluent (“POME”)) รวมถึงกากของเสียจากอุตสาหกรรมที่มีไขมันกลับเข้าสู่การผลิตน้ำมันไบโอดีเซลอีกรอบทั้งนี้กรีนดีเซลจะมีคุณสมบัติเทียบเคียงกับน้ำมันดีเซล
.
3.โครงการการขยายกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เช่น RBDPL และน้ำมันไบโอดีเซล
และ4. โครงการศึกษาการขยายธุรกิจไปยังห่วงโซ่การผลิตผลิตภัณฑ์ปาล์มอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
.
จุดแข็ง
ทั้งนี้บริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำของผลิตภัณฑ์ปาล์ม ทั้งกลุ่ม TCG และ กลุ่ม PTG รวมทั้ง โรงงานที่แรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นรูปแบบ “ปาล์มคอมเพล็กซ์” ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ครบวงจรเพื่อการบริหารต้นทุน และความเพียงพอของวัตถุดิบ นอกจากนี้โรงงานใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
.
ประกอบกับทำเลที่ตั้งโรงงานเชิงยุทธศาสตร์ในแหล่งเพาะปลูกปาล์มน้ำมันซึ่งมีความใกล้ชิดกับคู่ค้า และลูกค้า รวมทั้งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลรายใหญ่ของประเทศไทย ขณะที่ชื่อเสียงทางด้านการค้าที่แข็งแกร่ง และผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ
.
นอกจากนี้บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ณ ปี 2564 จากร้อยละ 4.6 ของตลาด RBDPL ตามข้อมูลของ USDA และมีเป้าหมายให้กลายเป็นผู้นำที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20.0 ของตลาด RBDPL ภายในปี 2570
.
ภาพรวมผลประกอบการ
• ปี 2563 มีรายได้รวม 6,435.3 ล้านบาท
และกำไรสุทธิ 879.7 ล้านบาท
.
• ปี 2564 มีรายได้รวม 8,833.8 ล้านบาท เติบโต 37.27%จากปีก่อน
และกำไรสุทธิ 361.6 ล้านบาท ลดลง 58.89% จากปีก่อน
.
• ไตรมาส 1/65 มีรายได้รวม 2,794.7 ล้านบาท เติบโต 21.07%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
และกำไรสุทธิ 77.3ล้านบาท ลดลง 57.80%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
ขณะที่บริษัท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทภายหลังจากหักภาษี และเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่น (ถ้ามี)