KBank ยังไหวไม่ขยับดอกเบี้ยกู้ หากไม่บังคับให้ขึ้นดอกฝาก ย้ำ “กสิกรไทย” ยังต้องมี “KAsset”
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2565 ณ โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ว่า แม้ทิศทางเศรษฐกิจของไทยจะเริ่มฟื้นตัวนำโดยภาคท่องเที่ยวที่กลับมา แต่การดำเนินงานของธุรกิจธนาคารยังต้องระมัดระวังคุณภาพหนี้ โดยธนาคารจะยังตั้งสำรองอย่างต่อเนื่องเพื่อคงสัดส่วนทุนสำรองในระดับสูงต่อไป
ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะมีการขยับขึ้นในที่ประชุมวันที่ 10 ส.ค.นี้นั้นทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คงจะต้องพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นจากเหตุอันควร ซึ่งหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับท่ามกลางสถานการณ์ของลูกค้าเงินกู้ที่ยังลำบากอยู่ ธนาคารก็ต้องคิดหนักถ้าจะขึ้นดอกเบี้ยตาม
“หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นก็คงต้องดู แต่เรายังทนได้อีกสักรอบ เรายังทนไหวที่จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามหากการประชุมกนง.รอบนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่ต้องบอกว่าอย่าบังคับให้แบงก์ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากด้วย นั่นเป็นการผลักภาระเพราะเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของสมดุล หากแบงก์อื่นขึ้นเราก็ยังพอทนได้ ตอนนี้ยังมีลูกหนี้ที่ลำบากอยู่ ส่วนลูกค้าเงินฝากที่อยากได้ดอกเบี้ยเงินฝากหลักๆคือลูกค้าฝากประจำ หากอยากช่วยคนเกษียณต้องช่วยให้กระจายเงินไปลงทุนทางอื่นที่มีผลตอบแทนที่ดี”
ส่วนเรื่องกระแสข่าวที่ธนาคารกสิกรไทยกำลังพิจารณาขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย (KAsset) นั้น นางสาวขัตติยา เผยว่า ธนาคารกสิกรไทยยังต้องการเป็น universal bank ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยยังต้องมีธุรกิจบลจ.อยู่ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมแล้วหรือยัง ถ้ายังจะทำอย่างไรให้สามารถบริการด้านนี้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์