5 หุ้น SET50 ร่วงแรงรอบ 1 เดือน หรือว่าโรงไฟฟ้ากำลังแย่

5 หุ้น SET50 ร่วงแรงรอบ 1 เดือน หรือว่าโรงไฟฟ้ากำลังแย่

ผลการประชุมนโยบายของเฟดเป็นตามที่หลายฝ่ายคาด ทำให้ทิศทางของเม็ดเงินไหลกลับไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ขณะเดียวกันตลาดหุ้นบ้านเราก็ยังขาดปัจจัยที่จะเข้ามากระตุ้น รวมถึงนักลงทุนยังกังวลประเด็นการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้ดัชนีค่อนข้างผันผวนและปรับตัวลงมาเทรดที่ระดับต่ำกว่า 1,300 จุด

อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ปรับตัวลงต่ำก็เป็นโอกาสให้นักลงทุนที่รอจังหวะเข้าซื้อหุ้นหรือเก็งกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องเลือกหุ้นและจังหวะซื้อที่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหุ้นหลายตัวที่ราคาปรับลงไปค่อนข้างมากและกำลังฟื้นตัว วันนี้ Wealthy Thai จึงรวบรวม 5 หุ้น ที่ราคาปรับลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.-16 ก.ย. 63) มาให้ดูกัน!!

EGCO ราคาหุ้นมี upside ทยอยสะสมลงทุนได้

จากตารางด้านบนจะเห็นว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นของ EGCO หรือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ปรับตัวลงมากที่สุด ทำให้บริษัทกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดย คุณนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า EGCO ถือเป็นอีกบริษัทในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีรายได้ปกติค่อนข้างมั่นคงไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจนเห็น upside ถือว่าอยู่ในระดับที่เริ่มจูงใจให้ทยอยสะสมลงทุนได้


จากนี้ EGCO พยายามจะกระจายฐานธุรกิจไปยังต้นน้ำ (การลงทุนทางด้านเชื้อเพลิง (LNG) และโครสร้างพื้นฐาน) และปลายน้ำ (smart energy solution) เพิ่มเติมจากการลงทุนในโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน EGCO มี backlog ในมืออีกเพียง 331 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในปัจจุบันที่ 5.4 พันเมกะวัตต์ แต่อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนอีกหลายโครงการทั้ง EGCO Cogen Replacement, EGCO Rayong Industrial Estate และโรงไฟฟ้ถ่านหินกวางจิที่เวียดนาม เป็นต้น


ทั้งนี้ ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-64 ลง 13.5% และ 16.4% ตามลำดับ สะท้อนการปรับลดกำไรของโรงไฟฟ้า BLCP, ไซยะบุรี และพาจู ส่งผลให้แนวโน้มกำไรปี 2563 ลดลง 16%yoy แต่จะกลับมาเติบโต 16%yoy ในปี 2564 โดยคาดกำไรไตรมาส 3/63 จะลดลงจากไตรมาส 2/62 ตามช่วงฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วง low season ของการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย และเกาหลี รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้พาจูในเกาหลีใต้น่าจะยังอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับงวดก่อนหน้า เพราะยังมีแผน shutdown อีก 1 ยูนิต อย่างไรก็ตาม ภายใต้ประมาณการใหม่ มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2563 เท่ากับ 310 บาทหุ้น (เดิม 330) ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาผ่านการปรับฐานไปแล้วในระดับหนึ่งจนเห็น upside มองเป็นจังหวะเข้าลงทุนได้

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก